ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

จาก วิกิคำคม

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อดีตพิธีกร อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์พีทีวี อดีตรองโฆษกพรรคไทยรักไทย

พ.ศ. 2550[แก้ไข]

“ เราไม่มีหลายอย่างนะครับ เราไม่มีโอกาสได้รับความยุติธรรม เราไม่มีโอกาสได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากองค์กรของรัฐ เราไม่มีโอกาสได้รับพื้นที่ที่นำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาจากสื่อหลายแขนง เราไม่มีโอกาสได้ประกาศการต่อสู้ของตัวเองว่านี่คือการต่อสู้อย่างชัดเจน บริสุทธิ์ใจ ตรงไปตรงมา และที่สำคัญที่สุดพี่น้องครับ...

ให้พี่น้องจดจำและมั่นใจว่า เราไม่มีเส้นครับ...

เราไม่มีเส้นครับ...

เราเกิดบนผืนแผ่นดิน เราโตบนผืนแผ่นดิน เราก้าวเดินบนผืนแผ่นดิน เมื่อเรายืนอยู่บนดิน เราจึงห่างไกลเหลือเกินกับท้องฟ้า...

พี่น้องครับ...

เมื่อเรายืนอยู่บนดิน ต้องแหงนคอตั้งบ่า แล้วเราก็รู้ว่า...

ฟ้าอยู่ไกล...

เมื่อเราอยู่บนดิน แล้วก้มหน้าลงมา เราจึงรู้ว่า...

เรามีค่าเพียงดิน...

แต่ผมแน่ใจว่า ด้วยพลังของคนเสื้อแดงที่มันจะมากขึ้นทุกวัน ทุกวัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น ทุกนาที ทุกนาที แม้เรายืนอยู่บนผืนดิน แม้เราพูดอยู่บนผืนดิน แต่จะได้ยินถึงท้องฟ้า แน่นอน!

เสียงไชโยโห่ร้องของเราในยามนี้ จากคนที่มีค่าเพียงดิน จากคนที่เกิดและเติบโตบนผืนแผ่นดิน จะได้ยินถึงท้องฟ้า แน่นอน!

คนเสื้อแดงจะบอกดิน บอกฟ้าว่า...

คนอย่างข้าก็มีหัวใจ!

คนเสื้อแดงจะบอกดิน บอกฟ้าว่า...

ข้าก็คือคนไทย!

คนเสื้อแดงจะถามดิน ถามฟ้าว่า...

ถ้าไม่มีที่ยืนที่สมคุณค่า!

จะถามดิน ถามฟ้าว่า...

จะให้ข้าหาที่ยืนเองหรืออย่างไร!

เสียงไชโยโห่ร้องของคนเสื้อแดง จะได้ยินถึงดิน ถึงฟ้า!

พี่น้องที่เคารพครับ แต่ไม่ว่าเราจะมีหรือไม่มีอะไร เรามีสิ่งที่มีค่าที่สุดแล้ว ในแนวทางของการต่อสู้ คือจิตวิญญาณของประชาธิปไตย และผมอยากจะกราบเรียนพี่น้องว่า มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าผมต้องทำ ตั้งใจแล้วว่าต้องทำ

ตั้งแต่นำพี่น้องอยู่ที่ด่านมะขามเตี้ยว่า สิ่งที่ต้องทำ และต้องแสดงออกกับพี่น้องที่รวมตัวกันอยู่ที่นั่น หรือว่าไม่ได้ไปที่นั่น แต่ส่งใจมากร้อยรัดกันเป็นพลัง ก็คือว่า พี่น้องครับ สำหรับความยิ่งใหญ่ของพี่น้อง ทำได้อย่างนี้อย่างเดียวครับ (ก้มกราบ) ผมทำได้อย่างเดียวจริง ๆ

ยิ่งใหญ่เหนือกำลัง ยิ่งใหญ่เหนือกำลัง คือ...

พลังแห่งมวลมหาประชาชน!

”
30 ธันวาคม พ.ศ. 2550

พ.ศ. 2552[แก้ไข]

“ ที่ผ่านมาหัวใจประชาธิปไตยถูกเหยียบย่ำมามากแล้ว เราถูกเหยียบย่ำจนยับเยิน แล้วจะเดินข้ามหัวเราไป แล้วบอกว่าให้สงบเพื่อสันติภาพ ผมอยากจะบอกให้คุณทราบว่าในผืนแผ่นดินนี้ ถ้าไม่มีความยุติธรรม ก็ไม่ต้องถามหาสันติภาพ ”
“ คุณจะอุ้มคนกลุ่มนึง แล้วเหยียบหัวคนอีกกลุ่มนึง แล้วหันไปถุยน้ำลายใส่หัวคนที่คุณเหยียบ แล้วบอกว่ามึงอย่าแหงนหน้ามานะเพื่อสันติภาพ ”
“ ผมยืนยันว่ายังไงก็จะสู้กับอำมาตยาธิปไตย และก็พร้อมที่จะประกาศอย่างนี้ ทุกวันทุกที่ ไม่มีเปลี่ยนแปลง คนเขาก็ถามว่า จะชนะเหรอ คงแพ้ คงติดคุกปีละหนสองหนเรื่อย ๆ ผมก็ตอบว่า นั่นก็คงไม่เป็นไร ผมจะสู้จนต่อเมื่อวันหนึ่ง คนจำนวนมากขึ้นในสังคมไทย เขาหันมาสนใจ และหันมาถามว่า ไอ้คนพวกนี้มันสู้ทำไม และผมว่ามันเริ่มเกิดขึ้นแล้ว... ”
ชกข้ามรุ่น
“ การต่อสู้ของคนเสื้อแดงมีแต่คนเสื้อแดงด้วยกันจริง ๆ เวลาพันธมิตรฯ ต่อสู้เขาเอาหลังพิงกองทัพ เอาหลังพิงอำมาตย์ เอาหลังพิงอำนาจนอกระบบ องค์กรอิสระต่างๆนานา แต่เสื้อแดงเราไม่มีใคร เราทำได้แค่เอาหลังพิงกัน แล้วสู้ด้วยกัน ”
ชกข้ามรุ่น
“ ผมตั้งชื่อลูกว่า "นปก" มาจากอักษรย่อ นปก. ไม่มีคำแปลในพจนานุกรม ผมตั้งของผมเอง ผมคิดว่าถ้าเป็นไปได้ อยากเห็นฝ่ายประชาชนหรือฝ่ายประชาธิปไตย ได้รับชัยชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดก่อนที่เขาจะโต เพื่อให้เขาสัมผัสกับเรื่องราวเหล่านี้ในฐานะผู้ค้นคว้าศึกษา ไม่ต้องเป็นผู้ลงมือปฏิบัติหรือลงมือต่อสู้ เพราะผมรู้อยู่กับตัวเองว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่มีอุปสรรค และอันตราย แต่ถ้าพ่อของเขายังทำไม่สำเร็จหรือคนรุ่นพ่อเขายังทำไม่สำเร็จ แล้วเขาต้องมาทำต่อ ผมก็คาดหวังว่า วันหนึ่งเขาจะเป็นคนที่มาทำหน้าที่นี้ แม้จะมีอุปสรรค และอันตราย ผมก็ไม่เสียดาย ถ้าลูกของผมต้องมาลำบากด้วยเรื่องนี้ เพราะผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ ”
ชกข้ามรุ่น

พ.ศ. 2553[แก้ไข]

“ เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง ”
เหตุการณ์ประท้วงที่เขาสอยดาว
“ อยากบอกพื้นดินที่เราเกิดมา บอกกับท้องฟ้าที่โอบอุ้มเราว่าเราชาวไพร่รักดินและรักฟ้า ว่าแต่ฟ้าจะรับรู้ และรักเราหรือไม่ หากเราชาวไพร่จะเป็นอะไรไป ก็ให้รับรู้ไว้ว่าข้าเป็นคน คนที่มีหัวใจ ”
8 เมษายน พ.ศ. 2553
“ ขอให้ผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาร่วมชุมนุม หากตัดสินใจจะออกจากที่ชุมนุมก็ขอให้ออกไปทันที แต่พวกผมจะนั่งอยู่ที่นี้ ไม่มีการให้เด็ก หรือสตรีมาห้อมล้อมไว้เหมือนเช่นพันธมิตร ดังนั้น ขออย่ารีรอ การนำบุตรหลานออกไปจากพื้นที่ถือเป็นอิสระของพวกท่าน แต่หากประสงค์จะร่วมบรรยากาศการต่อสู้ ก็ขอให้เตรียมนำบุตรหลานไปอยู่ที่ในปลอดภัย เช่นวัดปทุมวนาราม ซึ่งเปิดเป็นเขตอภัยทานเอาไว้แล้ว ”
16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
“ พวกผมพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อให้ประเทศนี้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง แต่ในเมื่อการต่อสู้ของประชาชนได้เกิดความสูญเสีย เกิดการบาดเจ็บ ล้มตาย และไม่มีทีท่าว่าความตายนี้จะยุติลง ขอเรียนพี่น้องว่า แม้เราจะตัดสินใจสู้ต่อ แต่เราต้องอย่าตายให้กับปรากฏการณ์นี้อีกเลย เราจะหยุดการบาดเจ็บ ล้มตาย และรอวันเวลาในการกลับมาสู้ใหม่ ถ้าพี่น้องยังเห็นความเป็นแกนนำของพวกผมที่ยังพอมีเหลืออยู่ บนเวทีนี้ ยังพอมีสายใย สื่อสายถึงกัน ขอประกาศกับพี่น้องว่า เราขอยุติเวทีชุมนุมแต่เพียงเท่านี้ แต่การต่อสู้ของเรา ยังไม่ยุติ การต่อสู้จะต้องเดินหน้าไปตามกระบวนการประชาธิปไตยต่อไป ผมทราบ ว่าท่านรับไม่ได้ ไม่อยากฟังคำนี้ ซึ่งทางแกนนำได้ปรึกษาหารือถึงสถานการณ์โดยรอบแล้ว เรามิอาจยืนต้านทานความอำมหิตนี้ได้อีก

ทั้งนี้ พี่น้องฟังผมเถอะครับ การนำท่านมาต่อสู้วันนี้ยังไม่ถึงฝั่งที่พวกเราคาดหวังเอาไว้แต่พวกเราก็ได้พยายามกันถึงที่สุดแล้ว เมื่อได้พยายามแล้วเราก็เลยขึ้นเวทีมาบอกกล่าวกับพี่น้องเพื่อร้องขอว่า... (เสียงสั่นเครือ) พวกผมจะเอาอิสระของตัวเอง แลกกับความปลอดภัยของพี่น้อง ตลอด 3 - 4 ปีที่ผ่านมา เราต่อสู้ร่วมกันมาขอความกรุณาเราจะยุติเวทีนี้ เพื่อเดินหน้าสู่กระบวนการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตยต่อไป

เราขอยุติเวทีการชุมนุมแต่เพียงเท่านี้ แต่การต่อสู้ยังไม่ยุติ การต่อสู้ยังต้องเดินหน้าไปตามกระบวนการประชาธิปไตยต่อไป เราไม่อาจต้านทานความอำมหิตนี้ได้อีก ขอให้พี่น้องเดินออกไปทางสนามศุภชลาศัย การ์ดจะดูแลให้พี่น้องเดินทางกลับด้วยความสงบ และปลอดภัย

”
19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

คำพูดเกี่ยวกับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ[แก้ไข]

“ คืนวันที่ 99 ธันวา นานแล้วที่ผมไม่เคยเห็นคนรุ่นนี้ทำได้อย่างคุณที่สนามหลวง คืนนั้นถ้ามีตุ๊กตาทอง 2 ตัว ตัวหนึ่งต้องเป็นของคุณ ”
สมัคร สุนทรเวช
ชกข้ามรุ่น
2 มกราคม พ.ศ. 2551
“ นับตามวัย ณัฐวุฒิมีอายุ 30 ต้น ๆ เขาเป็นลูกข้าพเจ้าได้ แต่ถ้านับจากงานที่ได้ร่วมทำกันมา เขาเป็นเพื่อนร่วมงานชั้นเยี่ยมที่ข้าพเจ้าต้องนับถือ บนถนนสายประชาธิปไตย เขาเป็นนักต่อสู้ชั้นแนวหน้าไม่ด้อยกว่าใครๆที่มีอายุมากและเคยโด่งดังในอดีต ”
วีระ มุสิกพงศ์
ชกข้ามรุ่น
“ ใครทำอะไรไม่ถูกต้องก็จะแสดงอาการต่อต้านทันที นิสัยเขาเป็นอย่างนั้นตั้งแต่ตัวเล็กแค่ 5 - 6 ขวบ ก็เริ่มเห็นพัฒนาการตรงนี้แล้ว ลักษณะของเขาจะไม่ชอบรังแกคนอื่น เป็นเด็กเลี้ยงไม่ยาก ช่วยเหลือตัวเอง พูดอะไรก็เชื่อฟังผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกับแม่เขา เขาจะรักแม่รักพ่อ รักพี่น้อง และรักพรรคพวก นี่เป็นนิสัยเขาตั้งแต่เล็ก ๆ ใครทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง เขาก็จะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ถ้าเพื่อนโดยรังแก หรืออะไรต่าง ๆ เขาจะแสดงอาการทันที ”
ธีระศักดิ์ นาคแก้ว
ชกข้ามรุ่น
“ คนอย่างเขาเกิดมาเพื่ออย่างนี้ เขาต้องเป็นนักการเมือง และเป็นนักการเมืองที่ดีด้วย แต่วันนี้เพื่อนผมคนนี้ต้นทุนทางสังคมของเขายังน้อยอยู่ เขาเป็นคนเก่ง คิดว่าอนาคตเขาคงไปถึงรัฐมนตรี เขาไปได้ทุกกระทรวง ”
เพชร กาญวัฒนกิจ
ชกข้ามรุ่น
“ เต้นมีความคิดที่เร็ว ทำอะไรได้หลายอย่าง ที่สำคัญเขาอ่านหนังสือเยอะมาก อ่านเร็ว วิเคราะห์ข่าวเก่งมาก อ่านข่าวแล้วใช้สมองเขาเคยเขียนนวนิยายลงในหนังสือ ตัวเต้นเองก็ชอบอ่านนวนิยายเกี่ยวกับวิทยายุทธ์ เช่น มังกรหยก ฤทธิ์มีดสั้น สามก๊ก เกี่ยวกับยุทธจักร ยุทธภพ พอกลับจากมหาวิทยาลัยก็จะอ่านหนังสือ ข้อมูลจึงมีมาก หัวไว รู้หมด เวลาพูดจึงไม่ต้องมีสคริปต์ เพราะข้อมูลอยู่ในหัวเขาหมดแล้ว ความจำเขาดีมาก ”
ปริญญา จงภัทรนิชพันธ์
ชกข้ามรุ่น
“ ณัฐวุฒิเป็นคนรักพี่ รักน้อง รักญาติพี่น้อง รักเพื่อน รักครอบครัว รักเมีย รักลูกมาก รวมทั้งให้ความใส่ใจคนรอบข้างมาก ”
อุสมาน ลูกหยี
ชกข้ามรุ่น
“ ผมเชื่อว่าเขายังไปได้ไกลกว่านี้ เพราะมีความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหน เขาสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี เขาจึงน่าจับตามองอย่างมาก ”
จตุพร พรหมพันธุ์
ชกข้ามรุ่น
“ คุณณัฐวุฒิเป็นคนที่มีความสามารถเฉพาะตัวที่หาตัวจับยาก นอกจากจะเป็นผู้ที่มีทิศทางทางการเมืองที่ชัดเจนแล้ว ยังมีความสามารถในการปราศรัยทางการเมืองให้เข้าใจง่าย สามารถปราศรัยเรื่องการเมืองที่เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก โดยสอดแทรกสุภาษิต คำพังเพย มีลีลา มีมุข มีคารมที่แหลมคม ปราศรัยได้ถึงลูกถึงคน และมีปฏิภาณไหวพริบในการปราศรัยทางการเมือง ”
เหวง โตจิราการ
ชกข้ามรุ่น
“ เป็นนักการเมืองที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างเข้มข้นจนน่านับถือเลยทีเดียว หากใครได้สัมผัสเขาจะรู้เลยว่าเขาเป็นคนยังไง ”
วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย
ชกข้ามรุ่น
“ คุณณัฐวุฒิเขาเป็นคนร่าเริงและสนุก ”
พันเอก อภิวันท์ วิริยะชัย
ชกข้ามรุ่น
“ เป็นคนสู้ไม่ถอย ตายเป็นตาย ไม่เคยบ่นว่าเหน็ดเหนื่อยกับการต่อสู้ เป็นคนที่มุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง และเป็นคนตั้งใจจริง ”
มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ
ชกข้ามรุ่น
“ คุณณัฐวุฒิเป็นหนุ่มใต้ แต่เป็นคนที่มีแฟนคลับทุกภาค ผมยืนยันสังเกตจากหน้าเวที ”
พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
ชกข้ามรุ่น