เปาบุ้นจิ้น (ละครโทรทัศน์ พ.ศ. 2536)

จาก วิกิคำคม

เปาบุ้นจิ้น (จีน: 包青天, อังกฤษ: Justice Pao) เป็นละครโทรทัศน์ของไต้หวัน ที่ได้รับความนิยมมากออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์หัวซื่อ ประเทศไต้หวัน และในประเทศไทย ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้นำมาออกอากาศในปีพ.ศ. 2538 และได้มีการนำมาออกอากาศซ้ำเป็นครั้งที่ 2ในปีพ.ศ. 2549 จำนวน 236 ตอน ปัจจุบันออกอากาศทางช่อง พอใจ แชลแนล เวลา 13.00 น.-14.00 น. กับ 22.00 น.-23.00 น.และยังทำให้วงการละครโทรทัศน์จีนจับตามองมาที่ไต้หวัน นอกจากนี้เพลงซินเยวียนยางหูเตี๋ยเมิ่ง (ความฝันผีเสื้อคู่ทุกข์คู่ยาก) เพลงปิดท้ายเรื่องในชุดที่ 1 ยังเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมมาก

คำคม[แก้ไข]

คุณงามความดี[แก้ไข]

“ คุณธรรมความดี ไม่ได้อยู่ที่ลิ้น

หากเก็บไว้ในใจ

บุคคลผู้ใด ประพฤติตนตั้งอยู่ในธรรม ผู้นั้น จะมีบุตรและนัดดาสืบชาติต่อตระกูล บุตรและนัดดาของผู้นั้น ย่อมมีความกตัญญูต่อบิดามารดา

ใครผิดใครถูก ต้องว่ากันไปตามทางยุติธรรม อย่าได้ลำเอียงเห็นแก่หน้าใครเป็นอันขาด

ไม่ควรจะลงโทษประหารชีวิต โดยที่ไม่สอบปากคำนั้นเสียก่อน ถึงจะสอบถามแล้ว ก็ไม่ควรลงโทษ

”


“ คุณความดีเว้นจากการทำบาป

และยังไม่คิดทำบาปอีกด้วย

บุคคลผู้ใดใจบาปหยาบช้า ฆ่ามนุษย์ในครรภ์ นอกครรภ์ได้ ผู้นั้น แม้มีบุตรออกมาต่อชาติสืบตระกูล

บุตรนั้นก็ย่อมเป็นคนอกตัญญู ถ้าจะสงสัยว่าบุตรผู้นี้ กับบิดาผู้ตายไปแล้วช้านาน จะเป็นสายโลหิตอันเดียวกันหรือมิใช่

ถ้ากระนั้นให้ขุดเอากระดูกของบิดามา แล้วให้เอามีดแทงนิ้วมือบุตร จงให้โลหิตไหลหยดถูกกระดูกนั้น

ถ้ามิใช่บุตรกับบิดากันแล้ว โลหิตก็มิซึมซาบเข้าในกระดูกนั้นได้

ถ้าเป็นบิดากับบุตรโดยแท้แล้ว โลหิตนั้นก็จะซึมซาบเข้าไปในกระดูกนั้น

”


“ คุณความดีเป็นรากฐาน

การสร้างสรรค์มิตรไมตรี


...คนพาล ผู้ที่มีจิตเป็นพาลนั้นมีมาก ผู้ใจบุญประกอบไปด้วยเมตตาจิตนั้นน้อย

ผู้มีจิตใจเป็นพาล หาสมควรที่ผู้ใดจะคบหาด้วยไม่

อันว่าผู้ใดมีความพาล เรามิเห็นผู้นั้นสมควรจะมีอำนาจอยู่ในมือ

เวลานี้เราตกอยู่ในอำนาจคนพาลแล้ว ถ้าไม่ยอมมันคงจะฆ่าเสีย ไหนเลยจะได้แก้แค้นแทนสามีเราได้

”


“ คุณความดี คือ การุณแสดงออก

ของสุภาพและจิตใจที่ดี


...สมณะศาสนา อันผู้ใดขึ้นชื่อว่าเพศสมณะแล้ว ก็ควรจะตั้งอยู่ในศีลสัตย์ ตามเพศของนักบวช หาควรกระทำความชั่วในผิดเพศสมณะ

อันผู้ที่บวชเป็นชีบานาสงฆ์แล้ว มาคิดอุบายกระทำให้เขาขาดจากผัวเมียกัน แล้วกลับมาย้อนขอกระทำให้เขาเสียตัว โทษ...ถึงเชือดเนื้อให้กากิน

”


ความกตัญญู[แก้ไข]

“ กตัญญูเป็นการแสดงออกของจิตใจ

อันสูงและประเสริฐ


   ...กตัญญู-อกตัญญู
   อันธรรมเนียมคนซึ่งเกิดมาแล้ว
   ก็ย่อมประพฤติด้วยความกตัญญูต่อเจ้านาย
   ต่อบิดา มารดา และมิตรสหาย
   จึงจะเป็นที่สรรเสริญแก่เทพยดา และมนุษย์
   
   
   ชั้นแต่สัตว์เดรัจฉานก็ยังรู้คุณคน
   เป็นมนุษย์ไม่รู้จักคุณท่านผู้มีคุณแล้ว
   สู้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ไม่ได้
   ดูเป็นที่น่าอับอายแก่เดรัจฉานอันเป็นชาติต่ำช้ายิ่งนัก
   ชั้นแต่เดรัจฉานยังรู้จักคุณมนุษย์
   แต่มนุษย์ด้วยกัน หาใครจะรู้จักคุณกันไม่ 
”

คำพูด[แก้ไข]

“ การมุสา เป็นก้าวแรกเดินเข้าสู่ประตูคุก


โบราณ และ ปัจจุบัน ปัญญาชนทั่วไปล้มเหลว เพราะความเย่อหยิ่งอวดดี

จงห่างไกลจากคนพาล แต่อย่าแสดงตัวให้เห็นเป็นศัตรู ปัญญาชนควรสนิทไว้ แต่หาใช่ว่าต้องตามเขาไปเสียทุกอย่าง

ใครบ้างไม่เคยทำผิด ถ้าผิดแล้วแก้ไขกลับตนก็ย่อมเป็นมหากุศล

”
“ การกล่าววาจากระทบผู้อื่น

เหมือนคมมีดกรีดหัวใจ


ความโกรธและเจ้าอารมณ์ เป็นเครื่องกีดขวางความหวังดีของผู้อื่น

ผู้ที่สามารถเอาชนะความโกรธตนได้ คือเอาชนะศัตรูตัวร้ายกาจของตนเองได้

พวกเรามักมองเห็นความล้มเหลวของผู้อื่น แต่กลับมองไม่เห็นความบกพร่องของตนเอง

”


“ คำโกหกอยู่ได้ไม่ยั่งยืน


...สัจจะวาจา ถ้าเราบิดพลิ้วทำลืมคำสัญญา ก็ได้ชื่อว่าเราเป็นผู้เสียสัจจะ จะเป็นที่ติเตียนของเทวดาและมนุษย์หาควรไม่

ตัวท่านนี้เป็นคนสับปรับ เป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ ไม่ควรจะเป็นที่นับถือของผู้น้อย

อันตัวเราจะเสียทรัพย์มากน้อยสักเท่าใด ตัวเราก็หาเสียดายไม่ เราเสียดายแต่เพียง วาจาที่ลั่นออกมาแล้วไม่ขอกลับคืน

”


ระเบียบ[แก้ไข]

“ การกวดขันระเบียบของครู เลิศกว่าความเมตตาของพ่อ ผู้ซึ่งจะเป็นผู้พิจารณาพิพากษาคดีราษฎรต้องมีหลักอยู่ 8 ประการ

1. ให้ไต่สวนซักถามได้ความจริงจนสิ้นกระแสความ

2. ให้สืบ ต่อพยานตามข้ออ้าง และตามที่เห็นว่าจะได้ความจริง ต้องตรวจดูคำและตัวพยานโดยลักษณะพยาน

3. ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน อย่าละเว้นทางพิจารณา

4. จงกะให้รู้เล่ห์กลอุบายฝ่ายโจทก์ จำเลย

5. จงใคร่ครวญดูพิรุธอย่างไร

6. ต้องสอบถามดูว่าคำให้การคำต้นกับคำปลาย จะถูกต้องกันหรือไม่

7. คิดกลอุบายสืบเสาะเอาผู้ร้ายและความจริงให้ได้

8. ตัวผู้ร้ายตั้งแต่สองคนขึ้นไป ต้องแยกซักถาม ผู้จะเป็นตุลาการต้องรู้ในองค์ 8 ประการ ฉะนี้

”

เงิน[แก้ไข]

“ การแจกเงินให้ผู้อื่นได้

สู้แจกคติธรรมสอนคนอื่นไม่ได้


ยารสขมเป็นประโยชน์แก่คนไข้ คำเตือนไม่เสนาะโสตเป็นประโยชน์แก่ผู้ปฎิบัติ

สรรพทุกข์ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดทุกข์โศกาเท่ากับ การพลัดพรากและตายจากกัน ยากยามจน แม้อยู่ที่ชุมนุมชนก็ไม่มีใครรู้จัก ยามมั่งมี แม้อยู่ป่าลึกก็มีคนอ้างเป็นญาติกัน

”


การอาฆาต[แก้ไข]

“ ความอาฆาตมาดร้ายเหมือนขี่ม้าบ้า


...มนุษย์ เทพยดา ปีศาจ วิสัยมนุษย์ก็ย่อมมีร่างกาย ถ้าเป็นปีศาจแล้วจะมีร่างกายที่ไหน

อันว่าธรรมดามนุษย์นั้น เมื่อใครข่มเหงก็ต้องคิดแก้แค้นให้สาสม ดูแต่มดแดงเถิด ตัวมันน้อย ๆ เท่านั้น ถ้าคนไปแหย่รังมัน มันก็รุมกัด ไม่ปล่อยให้ข่มเหงเล่นแต่ฝ่ายเดียว ชนสามัญกับเทพยดา ย่อมผิดกันเป็นธรรมดา เทพยดากับมนุษย์นั้นผิดกัน

”


การอวดดี[แก้ไข]

“ ความอวดดีจองหอง...

เป็นการเริ่มต้นแห่งบาป


ครอบครัวที่มั่งมียศศักดิ์ ควรหัดให้เป็นคนมีใจกว้าง คน เฉลียวฉลาด รอบรู้ ควรฝึกทำใจหนักแน่นโอบอ้อมอารี

มงคลชีวิต ๓ ประการ ได้แก่ ความกตัญญ วิริยะอุตสาหะ และการให้อภัยอโหสิกรรม

คนมั่งคั่งสูงศักดิ์ ต้องไม่หยิ่งยะโส หากผู้อื่นร่ำรวยมีเกียรติ ก็ไม่อิจฉาริษยา

”


การใช้จ่าย[แก้ไข]

“ การใช้จ่ายในสิ่งไม่จำเป็น

แม้สตางค์เดียวก็แพง เป็นเหตุแห่งความยากจน


การปล่อยกายปล่อยใจให้หลงระเริง ไม่ประกอบกิจการงาน จนลงทุกทีไม่ดีขึ้น ไม่รู้คุณค่าของเงินทอง มือเติบสุรุ่ยสุร่าย จนลงแบบง่าย ๆ วัน ๆ เอาแต่ขี้เกียจหลับนอน จนตะวันส่องหัว จนลงเพราะเอาแต่สบาย ครอบครัวมีไร่นาคณานับ แต่ไม่ทำเกษตรเพิ่มพูนผล จนลงเพราะเกียจคร้าน สมาคมแต่ผู้เรืองยศ คนรวย นับถือเป็นมิตรสหาย จนเพราะความมักใหญ่ใฝ่สูง

”


ความอดทน[แก้ไข]

“ ความอดทน

หลีกเลี่ยงทุกข์ภัยที่ใหญ่หลวงได้


เป็นข้าแผ่นดินกินเบี้ยหวัดเงินปี เมื่อมีเหตุอะไรเกิดขึ้น ก็จำต้องฝ่าอันตราย จึงจะสมกับที่เราเป็นขุนนางตงฉิน และเป็นที่ไว้วางพระทัยของพระเจ้าแผ่นดิน

ถ้าราษฎรได้รับความเดือดร้อน หากเป็นขุนนางในแผ่นดิน ต้องนำข้าวปลาอาหารออกไปแจกจ่าย ตามสมควร เป็นขุนนางกินเบี้ยหวัดเงินเดือน ต้องหาความสุขให้แก่ราษฎร จำต้องไต่สวนจับเอาตัวคนร้ายมาให้ได้

”


“ ความอดทนรวมกับความกล้าหาญ

ย่อมบรรลุสุขแน่นอน


ธรรมดาผู้ที่เคยเล่าเรียนหนังสือ มักมีความรักใคร่ชอบพอ และคบคนที่มีความรู้เหมือนกัน

อันตัวคนเรานั้น จะถือเอาแต่ลักษณะสวยงามไม่ได้ ต้องคิดถึงความรู้เป็นใหญ่

คนยากจนไม่มีเงินทอง แต่มีความเพียรเล่าเรียนหนังสือ มีคุณประโยชน์แก่ราชการแล้ว ผู้นั้นจะตกไปอยู่ทิศานุทิศใดก็ไม่เป็นคนต่ำช้า

”


“ ความอดทนเป็นหนทางเอก

ที่นำไปสู่ความสำเร็จ


นางเป็นสตรีก็จริง แต่มีสติปัญญาความคิดเฉลียวฉลาด ด้วยตระกูลของนาง เป็นคนเล่าเรียนหนังสือ มีความรู้

จงมานะเล่าเรียนให้ดี จะได้เป็นที่พึ่งแก่ตนเองต่อไป

ผู้ได้ชื่อว่ามีความรู้ จะต้องเกรงอายุน้อยทำไม ถ้ามีความสามารถก็อาจเป็นขุนนางได้

”


“ ความอดทนเป็นต้นไม้ให้รสแสนขม

แต่การให้ผลแสนหวาน


รวบรวมทีละน้อยทำให้มากได้ เศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ล้วนมี ประโยชน์ทั้งนั้น

ใช้จ่ายสิ้นเปลืองนำความขาดแคลน อดสู ประหยัดตอนหมดตัวก็สายเสียแล้ว

อุปนิสัย คือ สันดานที่สองของมนุษย์ ลัทธิประเพณี คือ นิสัยอีกอย่างหนึ่ง

”


“ การพูดจาไม่รู้จักถ่อมตน

ธุรกิจก็ยากที่จะประสบผล


ครอบครัวที่ตกยาก คิดถึงมีศรีภริยา ยามประเทศที่ยุ่งเกิดภัยพิบัติ จะคิดถึงยอดขุนพลที่จงรักภักดี

ยามทะเลาะผู้ที่เงียบก่อนนั้น มาจากครอบครัวที่มีการอบรมสั่งสอนที่ดี

พยายามควบคุมความโกรธ มิฉะนั้น จะถูกความโกรธเข้ามาควบคุมท่าน

”


“ ความอดทน...

เป็นกุญแจไข ไปสู่ความผาสุกทั้งมวล


ยามอยู่สงบทบทวนความบกพร่องแห่งตน ยามสนทนา อย่าติฉินนินทาผู้อื่น

ทองคำพันตำลึงทองหาแพงไม่ รับโอวาทประโยคเดียว มูลค่ามากกว่าพันตำลึงทอง

ยามมีชีวิต ขึ้นโรงขึ้นศาล ยามสิ้นชีวิตก็จะไม่ตกลงสู่แดนนรก

”


“ ความอดทน...

คือบิดาแห่งคุณธรรมทั้งปวง


อย่าทำให้ผิดจากพระราชกำหนดกฎหมาย ซึ่งเป็นของสำหรับแผ่นดินสืบ ๆ มาแต่ก่อนเลย อันธรรมดาของผู้เป็นสภาตุลาการ เมื่อได้พิจารณาคดีใด ๆ ก็ต้องอาศัยความพิรุธอย่างหนึ่ง อาศัยพยานอย่างหนึ่ง ยังไม่มีพิรุธและยังมิได้สืบพยาน จะบังคับกดขี่ให้รับเป็นสัจนั้นยังหาควรไม่ แม้ว่ามีพิรุธราคีแล้วก็ดี หรือสืบพยานตามข้อหาคำให้การแล้วก็ดี แต่กระนั้นก็ยังต้องพิจารณาก่อน ควรฟังได้จึงฟัง ไม่ควรฟังก็ต้องหาทางยุติธรรมประกอบก่อน

”


ความรอบคอบ[แก้ไข]

“ ความรีบร้อนมักนำ

ความผิดพลาดมาให้เสมอ


พิจารณาความไม่ละเอียด จึงไม่ได้ความจริง ไม่เป็นความยุติธรรมไปได้

ด้วยเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ถ้าผู้ใดเป็นเจ้าของจริงแล้ว ย่อมมีความอาลัยรักใคร่เสียดาย จึงได้บ่นว่าเราไม่ยุติธรรม และไม่มีสติปัญญาที่ล่วงรู้ถึงความจริง ส่วนเจ้าผู้ที่มีความรื่นเริงกลับพูดว่าสมน้ำหน้า จึงขอให้เรามีทางเห็นได้ว่า เพราะมิใช่ของ ๆ ตัว จึงได้พูดออกมาดังนั้น เราพิจารณาแล้วเห็นว่าเจ้าเป็นคนทุจริต

”


“ ความรอบคอบระวังจิตใจ

คือ ผู้เฉลียวฉลาด


อย่าโทษตนไม่เหมือนผู้อื่น โลกนี้ผู้ที่เก่งกว่าตนนั้นมีมากมาย

อดทนสักนิด พายุจิตเรียบ คลื่นสงบ ถอยสักก้าว ทะเลดูกว้าง ท้องฟ้าสดใส ปราศจากกิเลสจิตสงบ จิตสงบย่อมรู้แจ้ง

ในสี่คาบสมุทรล้วนเป็นพี่น้องกัน อย่ามีจิตคิดร้ายผู้อื่น แต่ต้องระวังผู้อื่น

”


“ ความผิดพลาด

เป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ


มูลรากของความชั่วร้าย มากจากความเกียจคร้าน

ความผิดพลาดเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ ความอุตสาหะวิริยะเป็นมูลรากแห่งความสำเร็จ ความขยันอดทน เป็นครูสอนที่ยิ่งใหญ่

เตียงนอนคือคุกของคนเกียจคร้าน หญิงขี้เกียจกับเตียงอันอบอุ่นย่อมแยกจากกันไม่ได้

”


“

ยิ่งสูง...ยิ่งทำตัวให้ต่ำ จะเป็นเสน่ห์ต่อผู้อื่น


จงเอาความรักบุตรภรรยา ไปมอบให้แก่บิดามารดา จงเอาความตั้งใจแสวงหาชื่อเสียงไปแสวงหาคุณธรรม

จงห่างไกลจากคนพาล แต่อย่าแสดงตัวให้เห็นเป็นศัตรู จงเคารพนบน้อมผู้อื่น แล้วผู้อื่นก็จะเคารพนบน้อมท่าน

จิตที่ยึดมั่นในพุทธธรรม ไม่มีมารปีศาจมารบกวน

”


ความประหยัด[แก้ไข]

“ ความประหยัด

เป็นมารดาของคุณธรรมทั้งมวล


ความกล้าหาญที่ไร้อคติ ถือเป็นรากฐานแห่งชัยชนะ

ความกล้าหาญและความตั้งใจ ย่อมมีชัยต่ออุปสรรคทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า

การสร้างความดีเหมือนป่ายปีนขึ้นภูเขา ต้องใช้ความพยายามมาก ส่วนการกระทำชั่วเหมือนลงภูเขา ไม่ต้องใช้แรงอะไรเลย

”


การมีสติ[แก้ไข]

“ คนกล้ามีสติปัญญาน้ำใจกว้างขวาง


ยามผิดหวังต้องรักษาด้วยความอดกลั้น ยามสมหวัง ควรทำตนให้วางเฉย

ปรบมือข้างเดียวเสียงไม่ดัง เมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการ ทั้งคู่ก็ย่อมไม่เกิดทะเลาะกัน การวิวาทกันเป็นวิสัยของผู้อ่อนแอ

ความโกรธทำให้ตนเองรับทุกข์ทรมาน บุคคลผู้เปิดช่องให้โทสะครอบงำ จะยังมาซึ่งความวิบัติให้แก่ครอบครัว

”


“ ความทิฏฐิเป็นเจ้าเรือนแห่งความโกรธ


อยู่กับผู้มีสติปัญญา เหมือนอยู่ที่มืดมีผู้นำมาให้ถึงที่สว่าง

ผู้มีสติปัญญามาก ควรสั่งสอนผู้มีสติปัญญาน้อย ผู้ที่แข็งแรงควรเป็นที่พึ่งพาของผู้อ่อนแอ ผู้มั่งมีควรช่วยเหลือผู้ยากไร้ สังคมจึงจะเป็นปกติสุข

คบคนมีสติปัญญายิ่งคบก็ยิ่งได้ คบคนหลักแหลม ยิ่งคบก็ยิ่งเฉลียวฉลาด ยิ่งพบทางสว่างของชีวิต

”


ความดี-ความชั่ว[แก้ไข]

“ การไม่สามารถแยกดี-ชั่ว

เป็นบุคคลน่าห่วงใยที่สุด


...บุตร อันธรรมดาบุตรแล้ว ก็คงจะเหมือนกับคนคนหนึ่ง ไม่เหมือนบิดา ก็คงเหมือนมารดา

เป็นคนไม่เอาการ ดั่งเขาเปรียบว่าเหล็กไม่เอาถ่าน มันไม่เล่าเรียนให้รู้จริง มีแต่เสพสุรา เที่ยวคบเพื่อนที่เป็นพาล บุตรเช่นนี้ก็นับว่าเป็นบุตรอกตัญญู ไม่รู้จักรักษาตระกูลของบิดามารดา ชื่อว่าเป็น อวชาตบุตร บุตรสะใภ้ ก็เหมือนบุตรของเรา

”


“ คนดี เกลียดชังความชั่ว

เพราะรักในคุณธรรม


จะให้ประหารชีวิตคนไม่มีสติ ข้าพเจ้าเห็นว่ายังหาเป็นยุติธรรมไม่

เจ้าไปเป็นเจ้าเมืองคราวนี้ ต้องหมั่นเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขราษฎร มีเรื่องราวอะไรต้องพิจารณาให้ยุติธรรม อย่าเห็นแก่ลาภสักการะใด ๆ เป็นอันขาด ด้วยพวกแซ่เปานี้มีเมตตาจิต ก่อสร้างทางกุศลมาหลายชั่วคนแล้ว เจ้าต้องประพฤติตนอยู่ในสัตย์ธรรม อย่าทำให้เสื่อมเสียถึงวงค์ตระกูลของเรา

”


ความซื่อสัตย์[แก้ไข]

“ กิจการทั้งมวล

ความซื่อสัตย์สำคัญที่สุด


คนซื่อสัตย์ ยังหาควรตายไม่ ?

ท่านผู้นี้เป็นคนบ้านนอก หารู้จักขนบธรรมเนียมไม่ คนเช่นนี้ใจเดียวมีความซื่อตรงนัก

นางเป็นภรรยาของเพื่อนฝูงที่รัก ครั้นจะประพฤติเป็นคนทุจริตแล้ว จะเป็นคนที่ติเตียนแห่งเทพยดาและมนุษย์ หาสมควรแก่เราผู้ที่มีชื่อว่าซื่อตรงไม่

”


“ ความซื่อสัตย์ เป็นกุศโลบายที่ดีที่สุด


ผู้ซึ่งเป็นข้าราชการในแผ่นดินนั้นมีหลายอย่าง บางคนดูรูปร่างหน้าตาเป็นมนุษย์ แต่น้ำใจเป็นสัตว์เดรัจฉาน คิดแต่กำจัดล้างผลาญผู้ซึ่งมีคุณต่อแผ่นดิน

เป็นขุนนาง ตุลาการ ไม่ตั้งอยู่ในความยุติธรรม ให้ถอดออกเสียจากยศลงเป็นไพร่ แล้วให้ประหารชีวิตเสีย

เป็นขุนนางกินเบี้ยหวัดของแผ่นดิน ไม่เอาใจใส่ต่อทุกข์สุขของราษฎร กลับคิดเผื่อแผ่แก่พวกทุจริตนั้น ย่อมมีความผิดเป็นอันมาก

”


“ ความซื่อสัตย์คือมรดกที่ล้ำค่าที่สุด


...ซื่อสัตย์ เปาบุ้นจิ้นเป็นคนซื่อสัตย์มั่นคง แม้เป็นความไม่จริงไหนจะเอามากล่าว

เป็นคนซื่อสัตย์ ชำระความสิ่งใดก็เป็นยุติธรรม

ถึงตัวข้าพเจ้าจะต้องตายในความซื่อสัตย์ ก็ไม่คิดเสียดายแก่ชีวิต แต่เป็นห่วงด้วยมารดาเป็นคนชรา อยู่ภายหลังจะได้รับความลำบาก ไม่มีใครจะอุปถัมภ์เท่านั้น

”


“ คนดี ย่อมสร้างคุณธรรมให้ผู้อื่นดีกว่าตน


วัวที่เคยค้า ม้าที่เคยขี่ ต่างก็รู้ทำนองจริตกิริยากัน

สามีของข้าพเจ้ามิได้ตั้งอยู่ในยุติธรรม คิดฉ้อโกงญาติ... ไม่ควรจะร่วมทุกข์สุขเป็นสามีภรรยากันต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอหย่าต่อหน้าผู้ใหญ่บ้าน ให้รู้เห็นเป็นพยาน และทำหนังสือหย่าขาดจากผัวเมีย

”


“ คน ต้องมีกิริยาสุภาพ

ดุจดอกไม้ต้องมีกลิ่นหอม


คนเราเกิดมาจะดีจะชั่ว ต้องแล้วแต่บุญแต่งกรรมแต่ง จะถือเอารูปร่างเป็นประมาณไม่ถูก ผู้ที่มีวาสนาตามที่ปรากฏในพงศาวดาร มีลักษณะมิได้งดงามก็มีถมไป

ตัวท่านกับข้าพเจ้า ชะรอยชาติก่อนได้เก็บดอกไม้ร่วมต้น ทำกุศลร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน ปลูกศาลเจ้าเข้าส่วนด้วยกัน มาชาตินี้จึงบังเอิญให้มาพบปะกันเช่นนี้ ก็เพราะผลบุญชักนำมาให้เรากับท่านได้ร่วมทุกข์สุขกัน

”


“ คน ต้องมีปณิธานแน่วแน่ก่อน...จึงมีรากฐาน


...ผู้ใหญ่ ผู้น้อย เมื่อท่านอยากเป็นใหญ่ในราชการ ควรประพฤติให้ต้องด้วยทำนองคลองธรรม ก็คงได้เป็นผู้ใหญ่สมปรารถนา ไม่ควรคิดทำร้ายต่อผู้อื่นให้เดือดร้อน ถ้าพลาดพลั้งลงไป จะพากันย่อยยับไปทั้งครัวเรือน เมื่อตายลงแล้วก็ยังต้องไปทนทุกข์อยู่ในนรกอีก อันว่าบุคคลใด เป็นผู้มีความฉลาดรอบรู้ สมควรจะเป็นใหญ่ในภายหน้าได้

ใครจะเป็นเจ้าครองเมืองใหญ่เมืองน้อย ต้องแล้วแต่บุญบารมี และอาศัยกำลังของไพร่พลเป็นประมาณ

”


“ ความขยันอดทน เป็นครูสอนที่ยิ่งใหญ่

สุภาษิต คติธรรมสอนใจ


...บิดาเป็นเช่นใด บุตรชายก็เป็นเช่นนั้น มารดาเป็นเช่นใด บุตรหญิงก็เป็นเช่นนั้น

ผู้ใดมีความขยันอดทน ผู้นั้นประสบความร่ำรวย เพราะทรัพย์สินศฤงคารต่างๆ นั้น มาจากมือขยันหมั่นเพียร

ความ วิริยะ อุตสาหะ เป็นวิญญาณของธุรกิจ เป็นหลักชัยแห่งความสำเร็จ

”


ความเกียจคร้าน[แก้ไข]

“ ความขี้เกียจ คือสุสานฝังคนทั้งเป็น


ละเว้นอบายมุข สิ่งผิดกฎหมายทั้งมวล รวยเพราะความเจียมตน ครอบคลุมทั้งผู้ใหญ่-เด็ก ช่วยกันประกอบกิจ รวยเพราะสามัคคีใจเดียวกัน ลูกเมียกตัญญู ฉลาดรอบรู้ ปราศจากอคติ รวยเพราะช่วยกันทำ สอนลูกสอนหลานประกอบกรรมดี เป็นสง่าราศี รวยได้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน จิตสร้างสมคุณธรรมความดี เทพยดาฟ้าดินรักษา รวยเพราะสร้างกุศลกรรม

”


“ ความเกียจคร้าน

เป็นมารดาของความทุกข์ยาก


คำโบราณกล่าวว่า จะก่อสร้างสิ่งใดก็ให้ไว้เป็นที่แน่นหนา แต่กระนั้นก็ยังไม่พ้นความ หักพัง ชีวิต ก็ เช่นกัน เกิดมาแล้วหนีความตายไม่พ้น

อย่าทุกข์ร้อนเศร้าโศกไปเลย ธรรมเนียมเกิดมาแล้วก็ย่อมตายเหมือนกันทั้งนั้น ไม่เว้นกษัตริย์ พ่อค้า สามัญชน ต้องพบกับความตายเหมือนกันหมด

”


“ ความเกียจคร้านกับความยากจน

เป็นมิตรสนิทกัน


ความหฤโหดในโลก ๒ ประการ ทะเลว่าหฤโหด น้ำใจคนยิ่งหฤโหดกว่า

รู้ความทุกข์ยาก ต้องหวานอมขมกลืน จงหวั่นความหฤโหด อดทนต่อความเปราะบาง

ความเปราะบางในโลก ๒ ประการ หิมะฤดูใบไม้ผลิเปราะบาง จิตใจคนยิ่งเปราะบางกว่า

”


ความรวย-จน[แก้ไข]

“ คนมีรวยและจน น้ำก็มีระดับสูงและต่ำ


...ยากจน แม้ว่าจะยากจนฉันใด เราทั้งหลายก็จักไม่ทิ้งกัน

ถึงที่อับจนความทุกข์มาถึงเข้าแล้ว จะนิ่งเลยอย่างไรได้ ก็ต้องเอาเป็นธุระ

ผู้อนาถายากจน ก็ดีไปอย่างหนึ่ง ไม่ต้องเป็นทุกข์ว่าจะถูกปล้น เวลานอนก็หลับสนิท ถ้ามั่งมีเงินทองมากแล้วนอนตาไม่หลับ

”


ความกล้าหาญ[แก้ไข]

“ ความกล้าหาญที่ไร้อคติ

เป็นรากฐานแห่งชัยชนะ


ถ้ามีชายใดกระทำข่มขืนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะฆ่าตัวข้าพเจ้าให้ตายเสียก่อน มิให้ทันเสียตัวแก่ผู้ชาย ผู้ซึ่งมิใช่สามีของข้าพเจ้า

ธรรมดาผู้หญิงซึ่งนอกใจสามี มิให้ผู้ใดล่วงรู้นั้น ผู้หลักผู้ใหญ่เล่าบอกไว้ว่า มักเอาเหล็กตาปูตอกเข้าที่รูจมูก เมื่อเวลานอนหลับไม่รู้สึกตัว ก็คงจะถึงแก่ความตาย

”


การให้อภัย[แก้ไข]

“ ควรให้อภัยผู้อื่น

แต่ไม่ควรให้อภัยตนเอง


สมาคม กับ ผู้คน เจรจาต้องไพเราะ มารยาทอ่อนโยน แต่จิตใจต้องคงมั่น

ผู้มีความรอบรู้ มีฝีมือ มีความกล้าหาญ ถือเป็นคนสำคัญ หากมีคุณธรรมแล้วด้วยไซร้ จะมีผู้กล่าวสรรเสริญตลอดกาล

ทุกคนเกิดมาล้วนต้องตาย แต่ก่อนตายควรฝากลายไว้ให้โลก ชาติเสือยังไว้ลาย ชาติชายควรไว้ชื่อ

”


การคบเพื่อน[แก้ไข]

“ คบคนดีควรผ่อนปรน

คบคนชั่วควรระวังกวดขัน


...คนหนักแผ่นดิน คนสิ้นค่า คนโลภเห็นแก่ลาภ ไม่ควรจะเลี้ยงไว้ให้หนักแผ่นดิน

ชำระคนซึ่งเป็นเสี้ยนหนามแผ่นดิน หมดเสียให้ราบคาบไป ไม่ควรจะเลี้ยงไว้ในแผ่นดิน

คนทรยศ...ให้อยู่ไป ก็มีแต่จะหนักแผ่นดินเปล่า ๆ บุคคลใดเที่ยวเบียดเบียนราษฎร หาควรมีชีวิตอยู่ให้หนักแผ่นดินไม่

”


ครอบครัว[แก้ไข]

“ ครอบครัวจะรุ่งเรืองอยู่ 2 ประโยค

ขยันกับประหยัด


มีแต่บุคคลเคารพ ผู้อื่นเท่านั้น ถึงจะได้รับการเคารพตอบ

ผู้ป่วยไม่รู้จักตนเอง หลงระเริงอยู่ใต้มหันตภัย ผู้รู้จักตนเองก็คือการยกย่องตนเองให้น้อยลง

ความอาฆาตมาดร้ายเหมือนขี่ม้าบ้า ความโกรธคือความบ้าชั่วขณะ แต่ส่งผลเสียหายเป็นระยะยาวนาน

”

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้ไข]