ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทะไลลามะที่ 14"

จาก วิกิคำคม
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Sasakubo1717 (คุย | ส่วนร่วม)
องค์ที่สิบสี่
AnankeBot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.6.6) (โรบอต เพิ่ม: bg, bs, cs, de, el, eo, es, fr, he, hr, hu, it, lt, nl, pl, pt, ru, sv, tr, zh
บรรทัดที่ 12: บรรทัดที่ 12:
[[หมวดหมู่:พระ]]
[[หมวดหมู่:พระ]]


[[bg:Тензин Гяцо]]
[[bs:Tenzin Gyatso]]
[[cs:Tändzin Gjamccho]]
[[de:Tendzin Gyatsho]]
[[el:Δαλάι Λάμα]]
[[en:Tenzin Gyatso, 14th Dalai Lama]]
[[en:Tenzin Gyatso, 14th Dalai Lama]]
[[eo:Tenzin Gyatso]]
[[es:Tenzin Gyatso]]
[[fr:Tenzin Gyatso]]
[[he:טנזין גיאטסו]]
[[hr:Tenzin Gyatso, XIV. Dalaj Lama]]
[[hu:Tendzin Gyaco]]
[[it:Tenzin Gyatso]]
[[lt:Dalai Lama XIV]]
[[nl:Dalai Lama]]
[[pl:Dalajlama XIV]]
[[pt:Tenzin Gyatso]]
[[ru:Далай-лама XIV]]
[[sv:Tenzin Gyatso]]
[[tr:Tenzin Gyatso]]
[[zh:达赖喇嘛]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:12, 10 กันยายน 2556

w
w
วิกิพีเดีย มีบทความเกี่ยวกับ

องค์ทะไลลามะ เป็นตำแหน่งประมุขหัวหน้าคณะสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายมหายานพุทธศาสนาแบบทิเบต นิกายเกลุก (นิกายหมวกเหลือง) เป็นผู้นำทางด้านจิตวิญญาณสูงสุดของชาวทิเบต คำว่าทะไลลามะ มาจากภาษามองโกเลีย dalai แปลว่า มหาสมุทร และภาษาทิเบต བླ་མ ་bla-ma แปลว่า พระชั้นสูง

ตามประวัติศาสตร์ของทิเบต เชื่อว่าองค์ทะไลลามะเป็นอวตารในร่างมนุษย์ของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และเมื่อองค์ทะไลลามะองค์หนึ่งสิ้นพระชนม์ไป จะกลับชาติมาประสูติใหม่เป็นองค์ทะไลลามะองค์ต่อไป โดยเรทิงรินโปเช ซึ่งเป็นพระสงฆ์ระดับรองลงมาจะเป็นผู้ใช้นิมิตสรรหาเด็กคนที่เชื่อว่าเป็นทะไลลามะกลับชาติมาเกิด

องค์ทะไลลามะ พระองค์ที่ สิบสี่

สมเด็จพระ เทนซิน เกียตโซ (ภาษาทิเบต: བསྟན་འཛིན་རྒྱ་མཚོ་; Bstan-'dzin Rgya-mtsho; ภาษาจีน: 第十四世达赖喇嘛; His Holiness the 14th Dalai Lama , 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2478 - ปัจจุบั) คือองค์ทะไลลามะ องค์ที่ 14 แห่งทิเบต เป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) และเป็นผู้นำจิตวิญญาณและผู้นำสูงสุดของชาวทิเบต ถึงแม้ว่าทางการของสาธารณรัฐประชาชนจีนจะไม่ยินยอมก็ตาม พระองค์ทรงเป็นประมุขแห่งพุทธศาสนานิกายมหายาน พุทธศาสนาแบบทิเบตนิกายเกลุก


คำคม

“ มนุษย์เรานี้ยอมสูญเสียสุขภาพเพื่อทำให้ได้เงินมา แล้วต้องสูญเสียเงินตราเพื่อฟื้นฟูรักษาสุขภาพ แล้วยังเฝ้ากังวลกับอนาคต จนไม่มีความรื่นรมย์กับปัจจุบัน ผลที่เกิดขึ้นจริงๆก็คือ เขาไม่ได้อยู่กับปัจจุบันหรือแม้กระทั่งอยู่กับอนาคต เขาดำเนินชีวิตเสมือนหนึ่งว่า เขาไม่มีวันตาย และแล้วเขาก็ตายอย่างไม่เคยมีชีวิตอยู่จริง ”
ทะไลลามะ