คัมภีร์ไบเบิล
คำสอน
[แก้ไข]หนทางที่ดีที่สุดที่จะลืมปัญหาของตนเอง ก็คือการช่วยแก้ปัญหาให้ผู้อื่น. "มนุษย์ อย่ามองเพียงปัญหาของตนเอง แต่ทุกคนควรมองดูปัญหาของผู้อื่น" (ฟิลลิปปี 2:4) |
พระเจ้าเป็นผู้ทรงสามารถรักษาดวงใจที่สลายได้ แต่พระองค์จำเป็นต้องมีทุกชิ้นส่วนของดวงใจนั้น. "ลูกรัก จงมอบดวงใจให้แก่เราเถิด" (สุภาษิต 23:26ก.) |
การมีอำนาจ ทำให้บางคนเติบโต แต่ทำให้บางคนเพียง บวมเท่านั้น. "แต่ผู้ยิ่งใหญ่ในพวกท่าน ต้องเป็นผู้รับใช้ ผู้ใดยกย่องตัวเองจะถูกดึงให้ต่ำลง และผู้ใดที่ถ่อมตนลงจะได้รับการยกย่อง" (มัทธิว 23:11,12) |
จงเป็นห่วงว่าพระเป็นเจ้าทรงคิดอย่างไรกับท่าน มากกว่าการเป็นห่วงว่าคนอื่นเขาจะคิดอย่างไร. "เปโตรและสาวกอื่น ๆ ตอบว่า เรานอบน้อมเชื่อฟังพระเป็นเจ้าดีกว่ามนุษย์" (กิจการ 5:29) |
ปัญหาของผู้ที่พูดเร็วเกินไปก็คือ เขามักจะพูดสิ่งที่เขายังคิดไม่ถึง. "อย่ารีบพูด อย่าให้ใจท่านด่วนกล่าวสิ่งใดต่อพระพักต์พระเป็นเจ้า เหตุว่าพระเป็นเจ้าประทับในสวรรค์และเจ้าอยู่ในโลก ฉะนั้นขอให้เจ้าจงพูดน้อย" (บุตรสิรา 5:2) |
การพูดเป็นคำสุดท้าย
ควรเป็นการกล่าวขออภัย. "ลูกรัก หากลูกตกเป็นเหยื่อของสิ่งที่พูด หรือถูกคำพูดของลูกเป็นกับดัก ก็จงทำดังนี้ซิ จงปลดปล่อยตัวของลูกเสีย เมื่อลูกตกเป็นเหยื่อในเงื้อมมือของเพื่อนบ้านแล้ว จงถ่อมตนแล้ววิงวอนเพื่อนบ้านของลูก" (สุภาษิต 6:2,3) |
รถไฟของความล้มเหลว มักวิ่งอยู่บนรางของความเกียจคร้าน. "ความเกียจคร้านมากมาย ทำให้ตึกรามเสื่อมสภาพ บ้านช่องพังลงก็เพราะมือที่เฉื่อยชา" (บุตรสิรา 10:18) |
เมื่อเผชิญกับปัญหาขนาดยักษ์แบบ "โกลิอัท" ท่านจะตอบว่า "มันใหญ่เกินไป สู้ไม่ไหว" "พระเจ้าทรงช่วยให้ข้าพเจ้า พ้นจากอุ้มเท้าของสิงห์โตและหมีมาแล้ว พระองค์ก็จะทรงช่วยให้ข้าพเจ้า พ้นจากเงื่อมมือของชาวฟิลิสเตียผู้นี้" (1ซามูแอล 17:37) |
จงลืมตัวท่าน เพื่อผู้อื่น
แล้วเขาจะไม่ลืมท่าน. "ดังนั้นสิ่งใดที่ท่านปรารถนา ให้ผู้อื่นกระทำแก่ท่าน ท่านก็จงกระทำสิ่งนั้นแก่เขา เพราะนี่กฎบัญญัติ และคำสอนของบรรดาประกาศก" (มัทธิว 7:12) |
เคล็ดลับของความพอใจ คือการสำนึกว่า ชีวิตคือพระพร มิใช่สิทธิ. "ศาสนาทำให้คนมั่งมี หากเขาพอใจในสิ่งที่เขามีอยู่ เรามิได้นำอะไรติดตัวมาในโลก และเมื่อจากไป เราก็ไม่สามารถนำเอาอะไรติดตัวไปได้" (1ทิโมธี 6:6,7) |
ความเชื่อเที่ยงแท้ และความกล้าหาญ เปรียบเสมือนว่าว "ส่วนผู้ที่รอคอยพระเจ้า จะฟื้นฟูพลังของตนเอง เขาจะมีปีกโผบินดังเช่นนกอินทรีย์ เขาจะวิ่งแต่ก็ไม่เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดินแต่ก็ไม่เป็นลม (อิสยาห์ 41:31) |
ผู้ที่นำแสงอาทิตย์ เข้ามาในชีวิตของผู้อื่น ย่อมไม่สามารถกั้นแสงนั้น "อย่าหลงผิด ไม่มีใครหลอกพระเป็นเจ้าได้ สิ่งใดที่มนุษย์หว่านไว้ เขาก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น" (กาลาเทีย 6:7) |
เราจะรู้ซึ้งถึงความเชื่อ ก็ต่อเมื่อ เราเริ่มสั่งสอนลูกหลาน. "ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วให้บุตรของท่านเกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และเตือนสติตามหลักธรรมของพระเป็นเจ้า" (เอเฟซัส 6:4) |
บนบานประตูแห่งโอกาส ย่อมมีเขียนว่า "ผลัก" หรือ "ดึง" "วิญญาณของคนเกียจคร้าน มีความยากได้ แต่ไม่ได้อะไรเลย ฝ่ายวิญญาณของคนขยัน จะอ้วนพี" (สุภาษิต13:4) |
คนเราจะมีชัยมิได้ หากไร้การเริ่มต้น.
"เมื่อท่านมีใจพร้อมอยู่แล้ว ท่านจะได้ทำให้สำเร็จตามความสามารถของท่าน" (2 คร 8:11) |
หนทางสู่ความสำเร็จ คือการนำเอาคำแนะนำ ที่ท่านมอบให้ผู้อื่น มาใช้กับตัวท่านเอง. "ท่านที่ไม่สนใจกับกฎวินัย ย่อมดูหมิ่นตนเอง แต่บุคคลที่รับฟังคำตักเตือน ก็จะได้รับความเข้าใจ" (สุภาษิต 15:32) |
คนเขาจะรู้ว่าท่านเป็นใคร มิใช่จากสิ่งที่เขาเห็น แต่จากสิ่งที่เขาได้ยินจากปากของท่าน. ให้ความสว่างของท่าน จงฉายแสงต่อหน้ามนุษย์ เขาจะได้เห็นกิจการที่ดีงามของท่าน เขาจะได้ถวายพระเกียรติ แด่พระบิดาเจ้าของท่าน ผู้ประทับอยู่ในสวรรค์ (มัทธิ 5:16) |
บ่อยครั้งมนุษย์คิดว่าจิตใจเขาเปิดกว้างขึ้น อันที่จริงแล้ว มโนธรรมเขาต่างหากที่ยืดออก.สำหรับผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ ทุกอย่างก็ย่อมบริสุทธ์ผุดผ่อง แต่สำหรับผู้มีใจชั่วร้ายและไร้ความเชื่อ ไม่มีอะไรเลยที่บริสุทธิ์ ทั้งจิตใจและมโนธรรมของผู้นั้น ถูกทำลายไปหมดแล้ว (ทิตัส 1:15) |
ความโมโหมักทำให้เราตกอยู่ในความลำบาก แต่ความหยิ่งต่างหาก |
เราดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยสิ่งที่เราได้รับ แต่เรากลับเป็นผู้มอบชีวิต เมื่อเราเป็นผู้ให้ข้าพเจ้าได้ให้ตัวอย่างแก่ท่านแล้วในทุกสิ่ง ให้ท่านเห็นว่าการกระทำดังนี้ ท่านจะสามารถช่วยผู้ที่อ่อนแอ ท่านจงรำลึกถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสว่า "การให้ย่อมได้บุญมากกว่าการรับ" (กิจการ 20:35) |
แต่ละวันที่ผ่านไป คล้ายกับกระเป๋าที่มีขนาดเท่ากัน คนบางคนสามารถใส่ข้าวของเข้าไป ดังนั้นท่านจงระมัดระวัง ในการดำเนินชีวิต อย่าให้เหมือนคนไร้ปัญญา แต่ให้เหมือนผู้มีปัญญา จงฉวยทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามา (เอเฟซัส 5:15,16) |
ชิวิตคงจะง่ายขึ้นมาก หากคนเรา แสดงความอดทนในครอบครัว ท่านที่เป็นสามี ก็จงอยู่กับภรรยาของท่าน ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน (1เปโต 3:7ข.) |
ความร่ำรวยของคนเรา มิได้อยู่ที่ว่าเรามี ทรัพย์สินเงินทองมากมายเพียงใด บางคนไม่มีอะไรเลย แต่แสร้งทำเป็นคนร่ำรวย แต่บางคนมีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็แสร้งทำเป็นคนจน (สุภาษิต 13:7) |
การให้อภัยคล้ายกับเป็นการปล่อยนักโทษให้ เป็นอิสระ แล้วมาพบว่า หากท่านให้อภัยผู้ที่กระทำผิดต่อท่าน พระบิดาเจ้าก็จะทรงให้อภัยท่านด้วย แต่หากท่านไม่ให้อภัยผู้อื่น พระบิดาของท่านก็จะไม่ทรงให้อภัยแก่ท่านเช่นกัน (มัทธิ 6:14,15) |
ท่านคลุกคลีกับใคร ก็ย่อมจะบ่งให้เห็นว่า ท่านกำลังจะพบกับความยุ่งยากอย่างไร. อย่าไปผูกมิตรกับคนที่โกรธง่าย ท่านอาจจะเป็นเหมือนเขา และติดอยู่ในกับดัก (สุภาษิต 22:24,25) |
หัวใจมีความสุขมากที่สุด เมื่อมันเต้นเพื่อคนอื่น. ไม่มีผู้ใดมีความรักเท่ากับ ผู้ที่ยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อผู้อื่น (ยอห์น 15:13) |
บทเรียนจากการมองดูนาฬิกาก็คือ มันทำให้เวลาผ่านไปก็จริง การเป็นคนเกียจคร้าน ก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนที่ชอบทำลาย (สุภาษิต 18:9) |
มรดกอันประเสริฐที่บิดามอบให้บุตร ก็คือ "ตัวอย่างที่ดี"ท่านก็ทราบดีแล้วว่า เราได้กระทำทุกอย่างเพื่อท่าน ดังบิดามารดา พึงกระทำต่อบุตรหลานของตน (1เธสสะโลนิกา 2:11) |
พระเป็นเจ้าจะทรงเข้ามาสาละวนกับเรื่องของมนุษย์ ก็ต่อเมื่อพระองค์ได้รับเชิญเท่านั้น.ดูเถิด เรายืนอยู่และเคาะที่ประตูของท่าน หากท่านได้ยินเสียงของเราแล้วเปิดประตู เราก็จะเข้ามาร่วมรับประทานอาหารกับท่าน (วิวรณ์ 3:20) |
การแต่งงานอาจจะถูกสร้างขึ้นบนสวรรค์ แต่การบรูณะซ่อมแซมต้องอยู่ในโลกนี้. ดังนั้น สามีจงรักภรรยา เหมือนรักตัวท่านเอง และภรรยาก็จงเคารพสามีของตน (เอเฟซัส 5:33) |
ความอิ่มเอิบใจมิได้หมายความว่า เราได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการ ข้าพเจ้าไม่ได้บ่นถึงเรื่องความขัดสน ไม่ว่าข้าพเจ้าจะมีฐานะอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็เรียนรู้แล้วที่จะพอใจในสภาพของตน (ฟิลิปปี 4:11) |
ความสามารถ จะช่วยให้คนไปถึงจุดสุดยอด ของชีวิต แต่อุปนิสัยใจคอต่างหาก ความชอบธรรมของคนที่ไร้ตำหนิ ย่อมรักษาทางของเขาให้ตรง แต่คนชั่วร้ายย่อมล้มลง ด้วยความชั่วร้ายของเขาเอง (สุภาษิต 11:5) |
คำพูดคือหน้าต่าง ที่เปิดให้เห็นหัวใจของท่าน. เจ้าเป็นคนชั่วแล้วจะพูดความดีได้อย่างไร เหตุว่าปากนั้นพูดจากสิ่งที่มาจากใจ (มัทธิว 12:34ข.) |
คนโง่คิดว่าเขารู้ทุกอย่าง หากท่านไปถกเถียงกับเขา หากท่านตักเตือนคนที่โอ้อวด ท่านก็จะได้รับแต่เพียงการดูหมิ่น และความเจ็บปวด (สุภาษิต 9:7) |
คนที่กำลังจมน้ำ เขาจะไม่มัวบ่นว่า เครื่องชูชีพมันเล็กเกินไป. จงทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่น และการถกเถียงกัน (ฟีลิปปี 2:14) |
เป็นบุญของผู้ที่ไม่มีอะไรจะพูด และยังสามารถอดใจไม่พูดอย่างยืดยาว. ลิ้นของปราชญ์แจกจ่ายความรู้ แต่ปากของคนโง่ ย่อมถ่ายเทความโง่ออกมา (สุภาษิต 15:2) |
"โชคดี" คือข้อแก้ตัวที่ผู้แพ้มอบให้กับผู้ชนะ.
วิญญาณของคนเกียจคร้านมีแต่ความอยาก แต่เขาจะไม่ได้อะไรเลย ฝ่ายวิญญาณของคนขยัน จะอ้วนพี (สุภาษิต 13:4) |
หากท่านทำสิ่งที่ท่านกลัว ความกลัวก็จะหมดฤทธิ์.โมเสสส่งคนเผ่าละพันคนออกไปทำสงคราม ทั้งคนเหล่านั้น กับฟีเนหัสบุตรเอเลซาร์ปุโรหิต พร้อมกับเครื่องใช้ของสถานนมัสการ และมีแตรปลุกอยู่ในมือ (กันดารวิถี 31:6) |
ศิลปะของการเป็นแขกที่ดี คือการรู้ว่าเมื่อไรควรจะกล่าวคำอำลา.อย่าไปเยี่ยมเพื่อนบ่อยเกินไป เพราะเขาจะรู้สึกเอือมระอา และเริ่มเกลียดชังท่าน (สุภาษิต 25:17) |
ผู้ที่ไม่ให้อภัย คือผู้ที่ทำลายสะพานที่เขาเองจะต้องข้าม. หากท่านให้อภัยความผิด ที่ผู้อื่นกระทำต่อท่าน พระบิดาเจ้าของท่านในสวรรค์ ก็จะทรงให้อภัยแก่ท่านด้วย (มัทธิว 6:14) |
พระเยซูเจ้าคือพระสหาย ผู้ทรงย่างกายเข้ามา เราบอกสิ่งเหล่านี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติในจิตใจของท่านเนื่องจากเรา ระหว่างที่ท่านอยู่ในโลก ท่านจะต้องทรมาน แต่จงทำใจดีไว้เถิด (ยอห์น 16:33) |
ผู้ที่มีสิทธิ์ในความรักน้อยที่สุด คือผู้ที่ต้องการความรักมากที่สุด. แต่เราสั่งให้ท่านรักศัตรู และอธิฐานภาวนา ให้ผู้ที่กระทำผิดต่อท่าน (มัทธิว 5:44) |
เมื่อพระเป็นเจ้าทรงวัดมนุษย์ พระองค์ทรงเอาเทป พระเป็นเจ้ามิได้ทรงทอดพระเนตร ดังเช่นมนุษย์ มนุษย์มองดูรูปร่างภายนอก แต่พระเป็นเจ้าทรงทอดพระเนตร จิตใจ (1ซามูแอล 16:7ข.) |
แม้หญ้าในสนามของบ้านข้างเคียง จะดูเขียวกว่าบ้านของเรา จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่ (ฮีบรู 13:5) |
ลองครั้งแรกไม่สำเร็จ ก็ลองอ่านคู่มือดูซิ.
จงยึดมั่นในคำสอนของเรา อย่าได้ปล่อยไป จงรักษาไว้ เพราะนั่นคือชีวิตของเจ้า (สุภาษิต 4:13) |
อารมณ์ร้ายของท่านเปรียบเสมือนไฟใหม้ หากควบคุมไม่ได้ ผู้ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็เหมือนกับเมืองที่ไม่มีกำแพง (สุภาษิต 25:28) |
การตัดสินใจของท่าน อาจขัดแย้งกับ น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า แต่ตัวท่านเอง แม้เราจะไม่ซื่อสัตย์ แต่พระองค์ก็ยังคงซื่อสัตย์ เหตุว่าพระคริสตเจ้า มิทรงสามารถปฏิเสธพระองค์เองได้ (2 ทิโมธี 2:13) |
เพื่อนๆ ของท่านก็คล้ายกับปุ่มของลิฟต์ เขาจะพาท่านให้ขึ้นก็ได้ ลงก็ได้.ผู้ที่ผูกมิตรกับคนฉลาด ก็จะเป็นคนฉลาด หากท่านผูกมิตรกับคนโง่ ตัวท่านเองอาจถูกทำลาย (สุภาษิต 13:30) |
ความอดทนคือ คุณสมบัติที่ท่านชมเชยผู้ขับ รถข้างหลังท่าน แต่เป็นที่น่ารำคาญสำหรับ |
ผู้ที่ไม่ตื่นเต้นกับงานของตน คนเขาเรียกผู้นั้นว่า "คนว่างงาน"ไม่ว่าท่านจะทำอะไร ก็จงทำด้วยความตั้งใจ เหมือนกับท่านกำลังรับใช้ พระเป็นเจ้าพระองค์เอง มิใช่เจ้านายฝ่ายโลก (โคโลสี 3:23) |
เราจะรู้อุปนิสัยใจคอที่แท้จริงของคนได้ ก็โดยสังเกตุว่าเขาทำอะไร เมื่อไม่มีใครเห็น. จงทำให้นายพอใจเสมอ มิใช่เวลาที่ท่านคิดว่านายกำลังมองอยู่ ท่าน คือ ทาสของพระคริสตเจ้า ดังนั้นท่านจงกระทำสิ่งที่พระเป็นเจ้า ทรงปรารถนาจากท่าน ด้วยความเต็มใจ (เอเฟซัส 6:6) |
ตายพร้อมกับชื่อเสียงที่ดี ดีกว่ามีชีวิตกับชื่อเสียงที่ใช้ไม่ได้. ชื่อเสียงดี ย่อมมีค่ามากกว่าเครื่องหอมอันมีค่า (ปัญญาจารย์ 7:1) |
คำว่า "ไม่" เป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่คำ ที่จะมีคนเข้าใจผิดได้ง่าย. เมื่อท่านจะสัญญาอะไร ก็เพียงแต่บอกว่า "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" (มัทธิว 5:37ก.) |
สะพานที่ท่านจุดไฟเผาในวันนี้ อาจจะเป็นสะพานที่ท่านจะต้องใช้ข้าม จงพยายามสุดความสามารถ ที่จะเจริญชีวิตในสันติกับทุกคน (โรม 12:8) |
คนเรามักปรารถนาจะรับใช้พระเป็นเจ้า แต่ในตำแหน่งผู้ถวายคำแนะนำแด่พระองค์. จงถ่อมตนเฉพาะพระพักต์ พระเป็นเจ้าผู้ทรงพระอานุภาพ แล้วพระองค์ก็จะทรงให้เกียรติแก่ท่าน เมื่อถึงเวลา (1เปโต 5:6) |
มโนธรรม คือ เครื่องเตือนภัยซึ่งพระเป็น ทรงติดตั้งให้ไว้กับท่าน จงดีใจเมื่อมันทำให้ ในข้อนี้ ข้าพเจ้าพยายามประพฤติตามมโนธรรม โดยมิให้กระทำผิดต่อพระเป็นเจ้า และต่อเพื่อนมนุษย์ (กิจการ 24:16) |
คนเรามักลืมพระเป็นเจ้าทั้งวัน แต่แล้วก็ขอให้พระองค์ ทรงระลึกถึงเขาทั้งคืน. ข้าพเจ้าจะอธิษฐานภาวนา และร้องหาพระองค์ ทั้งยามเช้า เวลาเที่ยง และยามเย็น แล้วพระองค์จะสดับฟังข้าพเจ้า (สดุดี 55:17) |
อุปนิสัยของคนนั้นมิได้อยู่ที่ว่า บรรพบุรุษได้ทิ้ง มรดกอะไรไว้ให้เขาบ้าง แต่ขึ้นอยู่กับว่าตัวเขาเอง |
สะพานเชื่อมที่ดีเลิศระหว่างความหวัง กับ ความหมดหวัง |
การที่รู้ว่าท่านเป็นคริสตชนก็นับว่าดี แต่การแสดงตนเป็นคริสตชนย่อมดีกว่า.หากท่านรักกันและกัน คนทั้งหลายก็จะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา (ยอห์น 13:35) |