พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม)
พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) หรือชื่อเดิม จรัญ จรรยารักษ์ เกิด ณ ตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรีเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2471 และอุปสมบทวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2491 ณ วัดพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้รับราชทินนาม พระธรรมสิงหบุราจารย์ ภาวนาปฏิภาณโกศล โสภณธรรมานุสิฐ พิพัฒน์กิจสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆารามคามวาส[1] ซึ่งเน้นแนวทางการสั่งสอนเรื่องกฎแห่งกรรม และท่านยังเป็นพระนักเทศน์, พระนักพัฒนา, และพระวิปัสสนาจารย์ ซึ่งมีชื่อเสียงในต่างประเทศอีกด้วย[2]
คำสอน
[แก้ไข]ความอดทน
[แก้ไข]ความอดทนเป็นสมบัติของนักต่อสู้
ความรู้เป็นสมบัติของนักปราชญ์ ความสามารถเป็นของนักประกอบกิจ ความสามารถทุกชนิดเป็นสมบัติของผู้ดี |
||
— พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) |
ขอฝากไว้กับคุณโยมทุก ๆ ท่าน คนเรานี่สุขไม่เหมือนกัน ทุกข์ไม่เหมือนกัน แก้ไขเหมือนกันทุก ๆ คนไม่ได้ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม อย่าไปขัดคอเขา ต้องฝืนใจต้องอดทน เราอยู่กับคนมากต้องอดทนมาก อยู่กับคนต้องอดทนตลอดไป ถ้าเราอยู่คนเดียวก็ไม่ต้องอดทน เพราะไม่มีใครขัดคอ ใครจะพูดอย่างไรก็ช่าง วันไหนมีคนด่าคนว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ล้วนแต่ได้กำไร คนเรานี่มีปัญหามาก คน แปลว่า ปัญหา คนสร้างแต่ปัญหาให้เรา เราเป็นผู้จัดการผู้บริหารต้องอดทนมาก เมื่ออยู่กับคนมากก็ต้องอดทนมากแน่นอน | ||
— พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) |
ความเมตตา
[แก้ไข]ความดีเป็นศัตรูของชีวิต ความดีต้องมีอุปสรรค
เขาร้ายมาอย่าร้ายตอบ เขาไม่ดีมา เราเอาความดีไปแก้ไข คนตระหนี่ก็ให้ของที่ต้องใจ คนพูดเหลวไหล เอาความจริงใจไปสนทนา |
||
— พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) |
ขอเจริญพรว่าเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมมีความทุกข์แตกต่างกัน ไม้ไผ่ต่างปล้อง พี่น้องต่างใจ บ้านเดียวกันไม่เหมือนกัน แต่เราควรสร้างความดีร่วมกัน มีสติปัญญาสวดมนต์ไหว้พระ เจริญพระกรรมฐาน จะเหมือนกันได้ และวิสัยทัศน์จะเหมือนกัน จะได้มีสติปัญญาเหมือนกัน จะมีเมตตาเหมือนกัน อารีอารอบเหมือนกัน และจะช่วยกันดีด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีเมตตา มีธรรมะแล้วจะช่วยกันตลอดรายการ พี่ช่วยน้อง น้องช่วยพี่ สร้างความดีให้พ่อแม่ตลอดไป ถ้าเราอยู่โรงพยาบาล หรือจะอยู่ในรูปบริษัทใดก็ตาม เราทำงานด้วยความตั้งใจ มีความสามัคคีรับรองไปรอดแน่ | ||
— พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) |
เรานี้ต้องช่วยเหลือกัน
หนักนิดเบาหน่อยให้อภัยกัน ประเสริฐที่สุด หนักนิดเบาหน่อยไม่ให้อภัยกันเลย เราจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร เดี๋ยวเราก็ตายจากกันแล้ว ให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่าได้แหนงแคลงใจกัน รับรองไปรอด อยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข พระพุทธเจ้าทรงสอนให้รักกันเหมือนพี่น้องกัน รักเหมือนญาติ |
||
— พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) |
ถ้าเราไม่รักกันจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร เป็นพี่น้องกันยังรักกันไม่ได้ พี่น้องยังโกงกัน จะไปกันรอดหรือ อาตมาจึงพูดว่า ความดีเป็นศัตรูของชีวิต เงินทองเป็นอสรพิษ ไม่ใช่ของเราอย่าเอามา เอามาแล้วเป็นงูเห่า กัดแหลกลาญ ฆ่ารันฟันแทงกัน นี่แหละสัตว์โลกเป็นเช่นนี้ | ||
— พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) |
ขาดธรรมะเป็นอย่างนี้ มีแต่อคติกัน ไม่รักกันเลย ไม่มีเมตตาต่อกัน ไม่มีสงสารกัน เราจะต้องตายจากกันไปแล้วไม่วันใดก็วันหนึ่ง จะรบราฆ่าฟันกันไปถึงไหน มีทิฐิกันไปไม่มีโอกาสดีได้ พระพุทธเจ้าของเราทรงสร้างปัญญาในตัว แต่นักปราชญ์ของโลกสร้างปัญญานอกตัว จึงช่วยตัวเองไม่ได้
พระพุทธเจ้าของเราทรงมีปัญญาในตัว สอนให้เราทุกคนสร้างปัญญาในตัวของเราให้ได้ ปัญญา คือ ความรอบรู้ รู้จริงทุกสิ่งในตัวเอง จะเป็นชายก็จริง หญิงก็แท้ เป็นคนแก่ที่น่าบูชา รู้จริงอย่างนี้ ปัญญาในตัวช่วยตัวเองได้ ช่วยลูกช่วยหลานได้ ปัญญานอกตัวช่วยใครไม่ได้เลย แต่ตอนนี้เราไปหาปัญญานอกตัวกัน จึงละเลยกันไปหลายอย่าง ทั้งไม่มีมารยาท ขาดการเคารพผู้ใหญ่ ไม่มีระเบียบวินัย วัฒนธรรมของชาติหมดไปอย่างน่าใจหาย |
||
— พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) |
อ้างอิง
[แก้ไข]- ↑ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม เรียกข้อมูลวันที่ 27 มี.ค.2555 จาก www.amuletat7.com
- ↑ หลวงพ่อจรัญ เรียกข้อมูลวันที่ 27 มี.ค.2555 จาก www.amuletat7.com
- ↑ อยู่กับคนต้องอดทนตลอดไป ของ หลวงพ่อจรัญ เรียกข้อมูลวันที่ 27 มี.ค.2555 จาก www.onab.go.th