พระภัททกาปิลานีเถรี
เหตุการณ์เมื่อกล่าวถึงการจบธรรมทั้งปวง พบในเถรียาปาทาน[1]ว่า พระภัททกาปิลานีได้กระทำอธิการไว้มาแต่ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามปทุมุตร และได้ประพฤติติดตามบุพจริยานั้นมาตลอดถึงสมัยพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน พระเถรีได้กล่าวถึงธรรมอันประเสริฐนั้นต่าง ๆ ว่า พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ตาม ตลอดพระสงฆ์ก็ตาม ทุกแห่ง ว่าตนได้ถึงที่การบำรุงและน้อมบูชาอยู่ตลอดชีวิตในทุก ๆ สมัย
พระเถรีแสดงคาถา[2]ถึงการดำเนินชีวิตและการถึงที่สำเร็จธรรมทั้งปวงเช่นเดียวกับสามี ว่า
พระมหากัสสปเถระผู้เป็นบุตร เป็น
ทายาทของพระพุทธเจ้า มีจิตตั้งมั่นดี ท่านรู้ขันธ์ที่ อยู่อาศัยในก่อน เห็นสวรรค์และอบาย ถึงความสิ้น ชาติ เป็นผู้เสร็จกิจแล้วเพราะรู้ยิ่ง เป็นมุนี เป็น พราหมณ์ผู้ได้วิชชา ๓ ด้วยวิชชา ๓ เหล่านี้ นาง[3] ภัททกาปิลานีก็ได้วิชชา ๓ เหมือนพระมหากัสสปะ ละมัจจุได้ ทรงร่างกายนี้เป็นที่สุด ชนะมารพร้อมทั้ง พาหนะ เราทั้งสองเห็นโทษในโลกแล้วจึงบวช เป็น ผู้สิ้นอาสวะ ฝึกตนแล้ว มีความเย็น ดับสนิทแล้ว |
||
มาในบาลี[4] กำหนดเป็นบาทวินิจฉัยพระคาถา ว่า
ปุตฺโต พุทฺธสฺส ทายาโท กสฺสโป สุสมาหิโต ปุพฺเพนิวาส โสเวทิ โย สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ |
||
อ้างอิง
[แก้ไข]- ↑ ภัททกาปิลานีเถริยาปทาน ที่ ๗
ว่าด้วย บุพจริยาของพระภัททกาปิลานีเถรี - ↑ เถรีคาถา จตุกกนิบาต เล่มที่ ๕๔ หน้าที่ ๑๑๔ จากข้อเรื่องที่ ๔๓๘
- ↑ ในเถริยาปาทาน ว่า ดิฉันชื่อภัททกาปิลานีก็เหมือนกัน
- ↑ พระไตรปิฎก บาลี (สยามรัฐ) เล่มที่ ๒๖ หน้าที่ ๔๕๑ ถึง ๔๕๒ ว่า เถรีคาถาย จตุกฺกนิปาโต ฯ ข้อ ๔๓๘