ข้ามไปเนื้อหา

มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์

จาก วิกิคำคม

มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (ชื่อเล่น: เต้; เกิด 25 กันยายน ค.ศ. 1981) อดีตอาจารย์โรงเรียนจิตรลดา เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ และนักการเมืองชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยศรีวิไลย์

คำพูด

[แก้ไข]
  • ธนาธร เป็นคนที่ใช้ได้ อนาคตข้างหน้า พวกเราจะได้เห็น นายกรัฐมนตรี ชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 10 ปี ผมก็รอได้[1]
  • ผมเสียบริสุทธิ์ตั้งแต่ตอนอายุ 17 ยังจำได้ผู้หญิงคนแรก อายุมากกว่าผม 3 ปี ผมถูกข่มขืน ร้องไห้ เสียใจ แต่ผมเองก็อยากลองด้วย คือเขาก็สวยนะ พี่ชอบผู้หญิงสวยอยู่แล้ว แล้วผู้หญิงคนนี้ในห้องพี่ก็รู้จักทุกคน เพราะเพื่อนๆพี่ก็อยากจะเคลมกันทุกคน แต่เสร็จพี่คนเดียว ตอนสมัยพี่หนุ่ม ๆ พี่เป็นคนไม่ค่อยใช้ลูกน้องนะ พี่ลงมือเอง เพราะลูกน้องโหดไม่เท่าพี่ พี่ลงมือเองหมด ตอนสมัยเรียนเทคนิคไทย-เยอรมัน ลงมือเองทั้งหมด ซึ่งตอนสมัยเรียนมีเรื่องชกต่อยทุกวันเป็นอาชีพ พี่ชนะห้องนี้แล้ว ก็จะไปชนะห้องอื่นต่อ ปกติแล้วพี่จะมีเรื่องกันแถว ๆ ตีนสะพานพระราม 7 พี่ก็จะนัดไปต่อยกันทุกวัน นอกจากนี้ มีเรื่องกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สมัยเรียน ร.ด. ปี 1 มีเรื่องกับโรงเรียนมัธยม พี่ไปประมาณ 30 ฝั่งนู้นไปประมาณ 60 พี่เป็นคนเปิดทั้งหมด ส่วนเรื่องตีรันฟันแทงกันที่อาร์ซีเอ และหลาย ๆ ที่ ส่วนใหญ่พี่เป็นคนลงมือเองหมด เพื่อนพี่ตอนนี้หนีไปอยู่เกาะกง เพราะไปแทงรุ่นพี่ตาย ที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือเขาปิดข่าวกัน ปกติใครมีเรื่องกันที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ จะต้องมาหาพี่ก่อน เพราะพี่จะรู้ทุกซุ้มว่าเป็นซุ้มของใคร ตอนนั้นพี่เป็นประธานชมรมเพาะกาย มีพวกห่าม ๆ เป็นสมาชิกอยู่ราว 5,000 คน พี่ไม่ใช่คนติ๋ม ไปถามเพื่อนพี่ได้ที่จบวิศวะรุ่นเดียวกัน ไปถามได้ว่าพี่โหดขนาดไหน นักการเมืองไม่กล้ายุ่งกับพี่แล้วกัน เมื่อก่อนนี้พี่ต่อยกับนักมวย แล้วนักมวยแพ้พี่ พี่ไม่ฆ่ามันก็ดีแล้ว ตอนสมัยพี่อายุ 16 พี่รับรองว่าไม่มีนักการเมืองคนไหนเหี้ยมเท่าพี่แล้วกัน
  • เพลงชาติไทยที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น ใช้มาตั้งแต่ปี 2475 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 80 กว่าปีแล้ว ซึ่งเนื้อหาไม่ได้เอ่ยยกย่องเทิดทูลสถาบันเลย เนื่องจากคนแต่งในสมัยนั้นเป็นคณะราษฎร ขณะที่ประเทศอังกฤษยังวมีบทเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมเด็จพระราชินีนาถของประเทศอังกฤษ ดังนั้น ตนจึงขอเสนอให้ยกเลิกเพลงชาติไทยที่ใช้ในปัจจุบันเพื่อให้มีการปรับปรุงใหม่ โดยให้มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับสถาบันด้วย และระหว่างนี้ก็ขอให้ใช้เพลง “ความฝันอันสูงสุด” ไปพลางๆ ก่อน เพื่อเตือนสติไม่ให้ท้อถอยในการทำความดี จากนั้นนายชวนได้ตักเตือนว่า ขอให้สมาชิกทุกท่านพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันด้วย[2]
  • ถ้าให้เปรียบเทียบกัน ผมว่าคุณปารีณาสวยกว่าเยอะ ขนาดอายุ 40 กว่า มีลูกหนึ่ง ยังดูแลตัวเองดีขนาดนี้ ในขณะที่คุณพรรณิการ์ อายุน้อยกว่า ยังดูดีสู้ไม่ได้เลย อาจจะสดกว่า แต่คุณปารีณาสวยกว่าแน่นอน เอาจริงๆ ผมอยากจะเห็นเขาตบกันในสภาฯแล้วจะไม่ห้าม เพราะถ้าเราไปห้าม ทั้งสองฝ่ายอารมณ์ยังไม่สุด ให้เขาตบกันให้เรียบร้อย ถ้าเหนื่อยเขาก็หยุดเอง สุดท้ายเขาอาจจะมารักกันก็ได้
  • พรรคไทยศรีวิไลย์จะไม่จับมือกับพรรคหรือบุคคลกลุ่มใดที่อ้างตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งที่ศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกแล้วหลบหนีไปต่างประเทศ รวมถึงไม่จับมือกับกลุ่มที่ทำการเผาเมือง และจะตามล่าให้กลับมารับโทษจำคุกให้เป็นเยี่ยงอย่างให้ได้ในทุกวิถีทาง และจะตามยึดทรัพย์คนโกงให้ได้ ซึ่งทางพรรคพร้อมดึงพันธมิตรการเมืองที่สามารถทำตามนโยบาย 10 ข้อของพรรค เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ ยืนยันว่าพรรคไม่เคยทำให้ประเทศไทยเสียหาย มีแต่ปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนมากว่า 10 ปี ต่างจากพรรคการเมืองหลายพรรคที่จัดตั้งมาก่อนหน้านี้ ที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น หนีคดีไปต่างประเทศ ทำให้ประเทศเสียหาย สร้างหนี้ สาธารณะกว่า 6.7 ล้านล้านบาท สร้างหนี้ประชาชนกว่า 12.7 ล้านล้านบาท และขอย้ำว่าพรรคไทยศรีวิไลย์ จะไม่ร่วมกับคนที่เคยโกงชาติเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการนายทุน เผด็จการอดีตนายทหาร และไม่สนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพราะไม่มีความสามารถทางเศรษฐกิจ และหากหมดอำนาจเชื่อว่าคดีทุจริตจะถูกเปิดเผย แต่พรรคไทยศรีวิไลย์จะจับมือกับคนที่ไม่มีคดีทุจริต หากพรรคใดมีคนดี 60% ก็ให้นำผู้ที่มีคดีออกไปก่อน ทางพรรคจึงจะร่วมงานด้วยได้ หากเป็นฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะตรวจสอบโครงการต่างๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนให้ได้มากที่สุด [3]
  • พรรคจะสนับสนุนและร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐแล้ว เห็นว่าแนวทางการทำงานตรงกัน โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามการทุจริตที่ตนดำเนินการมาตลอด และเท่าที่พูดคุย ตนขอตรวจสอบคดีค้างเก่าให้แล้วเสร็จ และสามารถติดตามตรวจสอบโครงการใหญ่และที่ใช้งบประมาณจำนวนมากของพรรคพลังประชารัฐได้ เพื่อไม่ให้การใช้งบประมาณสูญเปล่า ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในอนาคต อย่างการจัดซื้อเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) งบประมาณเกือบแสนล้านบาท ซึ่งตนมองว่าเป็นการใช้เงินเกินความจำเป็น การจะเข้าไปร่วมทำงานกับพรรคพลังประชารัฐเป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่ได้ถูกซื้อตามที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเล็กถูกซื้อด้วยเงิน 20-30 ล้านบาท และตนมองว่าการเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ จะสามารถผลักดันนโยบายตามที่ได้หาเสียงและสัญญากับประชาชนไว้[4]
  • หากมีที่นั่ง ส.ส.ในสภา ค่อนข้าง 100% ว่าผมจะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ พลังประชารัฐ ภายใต้ข้อแม้ว่า พลังประชารัฐจะต้องนำนโยบายที่ผมหาเสียงกับประชาชนไปดำเนินการบ้าง 2-3 เรื่อง ทั้งการลดราคาน้ำมัน ซื้อหุ้นจาก ปตท.คืน 30% แก้กฎหมายจราจรให้สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในกรณีที่ถนนว่าง รถไม่ติด เป็นต้น[5]
  • ในการเจรจาต่อรองขั้นต่อไป ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ผมขอร้องครับ อย่าต่อรองเยอะ
  • ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการมีรัฐบาลแห่งชาติซึ่งไม่ดีแน่เพราะจะไม่มีใครตรวจสอบตามระบบรัฐสภา ประชาชนที่เลือก ส.ส.มาจะเสียประโยชน์อย่างมาก ถ้านักการเมืองสมผลประโยชน์กัน แบ่งผลประโยชน์กัน จะไม่มีใครตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นจะทวีคูณมากขึ้นซึ่งดี ไม่ดีนักการเมืองจะแอบเจรจานิรโทษกรรมคดี ของแต่ละฝ่ายกันอ้างว่าบ้านเมือง จะขัดแย้งวุ่นวาย จำเป็นต้องฮั้วกันคราวนี้จะยิ่งกว่า‘นิรโทษกรรมสุดซอย’หลักนิติธรรมจะเสียหาย ต้องการให้มีฝ่ายรัฐบาลที่เข้มแข็งบริหารประเทศได้และฝ่ายค้านที่ตรวจสอบเก่งป้องปรามก่อนความเสียหายจะเกิดขึ้น พร้อมแนะแนวทางแก้ไขปรับปรุงให้รัฐบาล อีกมุมหนึ่ง ถ้าจะเกิดรัฐบาลแห่งชาติจริง แต่แทบไม่มีโอกาสเลย แล้วมาฮั้วกัน ก็ขอบอกเลยชัดๆว่า จะขอเป็นฝ่ายค้าน เพียงคนเดียว จะไม่ยอมให้ใครมาร่วมมือกันทุจริตในประเทศเด็ดขาดโดยอ้างว่าบ้านเมือง จะวุ่นวายต้องปรองดอง ต้องรัฐบาลแห่งชาติ ประชาชนจะเสียหายหนัก ถ้าคนอื่นจะฮั้วกัน ตนไม่เอาด้วยเด็ดขาด[6]
  • ที่ถูกต้องคือพรรคที่ได้คะแนนลำดับ 17-77 เขาก็มีประชาชนเลือกมาถึง 1,059,700 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์มิได้ผ่านการซื้อเสียงมา 100% นี่คือเสียงสวรรค์ อย่าดูถูกคะแนนเสียงของประชาชน ถ้าเทียบกับค่าเฉลี่ยของ ส.ส.บัญชีรายชื่อพึงได้ก็ถึง 14.91 ที่นั่ง อีกทั้งถ้าไปตรวจสอบคะแนน ส.ส.เขตที่ชนะการเลือกตั้ง พรรคใหญ่แต่ละพรรคได้คะแนนมาไม่มาก ยกตัวอย่าง เช่น ผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.เขต จ.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พรรคอนาคตใหม่ 35,412 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 2 นายนพพล เหลืองทองนารา พรรคเพื่อไทย 32,956 คะแนนเขตเลือกตั้งที่ 3 นายอนุชา น้อยวงศ์ พรรคพลังประชารัฐ (พลังประชารัฐ) 24,063 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 4 นายนิยม ช่างพินิจ พรรคเพื่อไทย 40,252 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 5 อันดับ 1 นายมานัส อ่อนอ้าย พรรค พลังประชารัฐ 28,952 คะแนน สังเกตกันไหมว่าคะแนนไม่มากเลยในแต่ละเขตทั่วประเทศ ดังนั้น จากส่วนการคำนวณตาม พ.ร.ป.ส.ส. ในมาตรา 128(7) พรรคสุดท้ายที่จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คือ พรรคไทยรักธรรม ได้ 33,748 คะแนน ซึ่งเป็นลำดับที่ 27 ซึ่งก็ได้คะแนนมากกว่า ส.ส.เขต จังหวัดพิษณุโลก และ อีกหลายจังหวัด จากพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และ พรรคอนาคตใหม่ เสียอีก [7]
  • ถึงเวลาที่ประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนแปลง เพราะ 4 ปีที่ผ่านมาไม่สามารถแสดงออกทางประชาธิปไตยได้อย่างเต็มที่ และต้องปลดปล่อยให้ประเทศในหลายด้าน เช่น ปลดปล่อยประเทศจากการทุจริตทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ปลดปล่อยสังคมจากระบบอยุติธรรม ระบอบนายทุนใหญ่ที่ผูกขาดทรัพยากร-ธุรกิจ และปลดปล่อยจากนักการเมืองเก่า[8]
  • ระบบแอพริเคชั่นดีขนาดไหน ถ้าคนควบคุมระบบมันคอรัปชั่นยังไงมันก็คอรัปชั่น เพราะฉะนั้นแล้วมันอยู่ที่ตัวข้าราชการ นักการเมืองถูกด่าเยอะ นักการเมืองอาจจะโกง โกงนะ แต่เอามาแบ่งประชาชน เพราะเวลาเลือกตั้งถูกไถ่ใช่มะ แต่ข้าราชการมันไม่ต้องลงเลือกตั้ง มันแดกทุกวัน มันแดกทุกวัน เบ็ดเสร็จปลัดกระทรวงตั้งแต่รับราชการอายุ 22 จนถึงเกษียณ จนถึงตาย 90 คิดว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่

การถูกกล่าวถึง

[แก้ไข]
  • แต่ถ้าพูดถึงขั้นจะมาตบปากแบบนี้ก็เกินไป ทำไม่ได้หรอก ผิดกฎหมายอยู่แล้ว เพราะสุดท้ายในทางปฏิบัติจริง ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะมีงบผูกพันข้ามปี งบบุคลากรอยู่ อาจจะพูดในเชิงตัวอย่างมากกว่า ส่วนการที่พูดว่าตบปากนั้น ตนก็รับไม่ได้ และมองว่าประชาชนก็ไม่ได้ชอบแบบนี้ สุดท้ายประชาชนคงตัดสินใจได้เอง
    • ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

อ้างอิง

[แก้ไข]