มาริโอ้ เมาเร่อ
มาริโอ้ เมาเร่อ (4 ธันวาคม พ.ศ. 2531) เป็นนักแสดงลูกครึ่งเยอรมัน-จีน และยังเป็นนักร้องสไตล์ฮิปฮอป
เกี่ยวกับตัวเอง
[แก้ไข]สเก็ตบอร์ด
[แก้ไข]โอ้ชอบเล่นสเก็ตบอร์ด รู้สึกชอบในสไตร์การแต่งตัวแบบเด็กสเก็ต ก็เลยให้แม่ซื้อมาให้เล่น และก็ลองหัดเล่นเอง โอ้เจ็บเยอะเลย ก็เคยล้มแล้วก็ปวดก้นกบ บางวันถึงกับนอนหงายไม่ได้ต้องนอนคว่ำหรือนอนตะแคง ถึงการเล่นเสก็ตบอร์ดจะเจ็บตัวแต่ก็ไม่ท้อ
ฮิปฮอป
[แก้ไข]สิ่งที่บอกความเป็นตัวตนของโอ้อย่างชัดเจนที่สุด ก็เห็นจะเป็นเพลงฮิปฮอป การแต่งตัวแบบฮิปฮอป เพราะโอ้ชอบอะไรทุกอย่างที่เกี่ยวกับฮิปฮอป จึงเลือกทำอัลบั้มเพลงในแนวนี้
ลูกทุ่ง โอ้ชอบฟังเพลงแบบแนวพี่เป่าสายัน
พูดเกี่ยวกับการร้องเพลงของตนเอง
[แก้ไข]ถ้าให้ผมร้องเพลงคลอไปกับคนอื่นน่ะก็พอไหว แต่ถ้าให้ร้องเป็นจริงเป็นจังคนเดียวคงไม่ได้ ของผมจะเป็นพวกร้องแร็พเนื้อภาษาอังกฤษมากกว่า เพราะเป็นคนเนื้อเสียงไม่ดีเลย คนที่ได้ฟังเสียงร้องของผมแล้วจะรู้เลย ว่าใช้ไม่ได้แย่มากๆ ซึ่งเรื่องนี้ผมรู้ตัวเองดี ไม่ต้องมีใครมาบอกผมก็รู้ตัว เลยไม่คิดที่จะเอาดีด้วยการเป็นนักร้องอย่างแน่นอน ขอทำงานเป็นนักแสดงดีกว่า
ให้ความเห็น
[แก้ไข]พูดเกี่ยวกับไฮไฟฟ์
[แก้ไข]ผมรู้จักนะ แต่ไม่ได้เล่นครับ เท่าที่รู้ก็คือเอาไว้ติดต่อกับเพื่อนได้ อย่างบางคนเขาอาจจะไม่ได้ติดต่อหรือไม่มีเวลาไปเจอกับเพื่อน ๆ เขาก็สามารถไปดูรูปแล้วก็ทิ้งข้อความต่าง ๆ เพื่อฝากความคิดถึงไปยังเพื่อนได้ แต่ข้อเสียก็คือ บางทีถ้าเราเอารูปส่วนตัวไปโพสต์ มันก็อาจจะทำให้ภาพของเราหลุดไปได้ ที่สำคัญคือ ผมมองว่ามันทำให้เด็ก ๆ ขาดความสนใจในการเรียนนะ เพราะเท่าที่เห็นเพื่อน ๆ หลายคนจะเสียเวลาไปกับการเล่น hi5 วันละหลาย ๆ ชั่วโมง ผมก็อยากฝากไปถึงเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนว่า ควรเล่นแบบพอเหมาะพอควรและเล่นให้ถูกวิธีด้วย สำหรับเรื่องที่พระสงฆ์มาเล่นอินเทอร์เน็ตนั้น ผมมองว่าทุกคนก็มีสิทธิเล่นนะ เพียงแต่เราควรดูที่วัตถุประสงค์ของท่านมากกว่าเป็นอย่างไร
พูดเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008
[แก้ไข]อย่างช่วงนี้บอลยูโรกำลังแรง ส่วนตัวก็เชียร์ประเทศเยอรมนีนะ เนื่องจากเป็นชาติเกิด แต่ไม่คิดที่จะเล่นการพนันไปพร้อมกับการดูบอล เพราะมันมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง อีกอย่างในชีวิตนี้ก็ยังไม่เคยเห็นใครที่ได้ดีจากการพนันสักคน
การกอดบุพการี
[แก้ไข]ไม่ใช่เรื่องน่าอายดังที่วัยรุ่นส่วนใหญ่คิด การจูงมือแม่ หอมแม่เป็นเรื่องเท่ รู้สึกดี มีความสุข
“รู้สึกว่าถึงเราโตขึ้นแต่เราได้กอดแม่ เหมือนเราได้กำลังใจ ผมฟัดแม่ได้ทั้งวัน เพราะแก้มแม่นุ่มมาก”