ยุทธพร อิสรชัย

จาก วิกิคำคม

คำพูด[แก้ไข]

  • รัฐธรรมนูญนี่เป็นเหมือนกล่องแห่งความฝันของคนในแต่ละยุคสมัย ที่เมื่อเกิดปัญหาสังคมการเมืองแบบหนึ่ง คนก็พยายามที่จะเอาสิ่งที่ต้องการให้เป็นเป้าหมายมาใส่ไอ้กล่องอันนี้ แต่ประชาธิปไตยนั้นมันไม่ใช่เรื่องเป้าหมาย ประชาธิปไตยเป็นเรื่องของกระบวนการ เพราะฉะนั้นจึงสะท้อนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญหลายๆ ฉบับในอดีต เช่น ปี 40 นี่เราก็บอกว่าต้องการจะสร้างฝ่ายบริหารมีเสถียรภาพ ท้ายสุดพอเราเอาบทบัญญัติที่ทำให้ฝ่ายบริหารเข้มแข็ง การตรวจสอบก็ไม่เข้มข้น ก็เป็นปัญหา พอมา 50 เราบอกว่าต้องการที่จะทำให้การตรวจสอบเข้มข้น ก็เข้มข้นจนกระทั่งฝ่ายบริหารก็ทำงานไม่ได้ พอมาปี 58 59 ก็เช่นเดียวกัน เรามองความฝันตรงนี้บังเอิญว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มันเป็นฝันร้ายทางการเมืองของสังคมไทย

(สำหรับคำถามเรื่องกติกาสากล) คำว่าสากลต้องถามว่ามาจากมุมมองทางด้านไหน และคำว่าสากลจริงๆ แล้วนี่ มันมีอยู่ในระดับหนึ่งนะฮะ คำว่าสากลก็คือการได้รับการยอมรับ เหมือนสักครู่ที่ผมบอกว่า วันนี้เราอยู่บนเรื่องของฝันร้ายทางการเมืองในช่วง 10 ปีแห่งความขัดแย้ง แล้วเราก็บอกว่าไอ้ 10 ปีแห่งความขัดแย้งนี่ต้นตอมันมาจากเรื่องของนักการเมือง ต้นตอมันมาจากเรื่องของเสียงข้างมาก ต้นตอมันมาจากเรื่องของการเลือกตั้ง ทำให้เราได้ตัวแทนที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นบทบัญญํติทุกอย่างมันก็ถูกออกแบบมาแบบนี้หมด เน้นที่เป้าหมาย ..เพราะว่าในช่วง 10 ปีเขา(กมธ.)มองว่าตรงนี้มันเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นก็เลยมีมาตรการในการคัดง้างกับเสียงข้างมากออกมา เช่นระบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่ต้องการให้เรื่องของเสียงข้างน้อยมีคุณค่ามากขึ้น นับทุกคะแนน ผู้แทนของทุกคน เป็นหลักการที่ดี แต่ปัญหาก็คือว่าการให้คุณค่ากับเสียงข้างน้อยต้องไม่ละเลยเสียงข้างมากด้วยเช่นเดียวกัน เพราะในเมื่อระบอบประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมนี่ให้ความสำคัญกับเรื่องเสียงข้างมาก และหลักความเป็นสากลคุณอภิรักษ์ถามถึงนี่มันมีอยู่ในระดับหนึ่ง ความเป็นสากลมันขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับการยอมรับอย่างเป็นการทั่วไปหรือไม่ สำหรับในเรื่องของประชาธิปไตยนี่ หลังความเป็นสากลของความเป็นประชาธิปไตยมีอยู่ 5 อย่าง 1 สิทธิเสรีภาพ 2 ความเสมอภาค 3 เรื่องหลักนิติธรรม 4 สิทธิมนุษยชน แล้วก็ 5 ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไอ้ 5 เรื่องคือกลไกหลักที่จะต้องเป็นตัวตั้ง