รำพันพิลาป เป็นผลงานกวีนิพนธ์แบบกลอนประพันธ์โดยสุนทรภู่ เป็นนิราศเชิงกำสรวลที่พรรณนาถึงชีวิตของตัวเอง สุนทรภู่ระบุไว้ในงานประพันธ์ว่าได้เขียนงานชิ้นนี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2385 ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม เนื่องจากเกิดนิมิตเป็นฝันร้ายว่าจะต้องสิ้นชีวิต สุนทรภู่ตกใจตื่นจึงแต่งนิราศบรรยายความฝัน และเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของตนไว้ หลังจากนั้นก็ลาสิกขาบท
เนื้อหาในนิราศทำให้ผู้อ่านได้ทราบเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของสุนทรภู่ซึ่งไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน ทำให้ทราบด้วยว่าสุนทรภู่เคยธุดงค์ไปยังหัวเมืองต่าง ๆ มากมาย เช่น พิษณุโลก และได้แต่งนิราศเอาไว้ด้วย แต่งานเขียนของท่านถูกปลวกขึ้นกุฏิ จึงสูญสลายไปหมด สุนทรภู่รำพันความเสียดายหนังสือของตนไว้ในเนื้อเรื่องด้วยว่า "เสียดายสุดแสนรักเรื่องอักษร"
โอ้ยามอยู่สุพรรณกินมันเผือก
|
เคี้ยวแต่เปลือกไม้หมากเปรี้ยวปากเหลือ
|
จนแรงโรยโหยหิวผอมผิวเนื้อ
|
พริกกับเกลือกลักใหญ่ยังไม่พอ
|
ทั้งผ้าพาดบาตรเหล็กของเล็กน้อย
|
ขโมยถอยไปทั้งเรือไม่เหลือหลอ
|
เหลือแต่ผ้าอาศัยเสียใจคอ
|
ชาวบ้านทอถวายแทนแสนศรัทธา ๚
|
โอ้อายเพื่อนเหมือนเขาว่ากิ่งกาฝาก
|
มิใช่รากรักเร่ระเหระหน
|
ที่ทุกข์สุขขุกเข็ญเกิดเป็นคน
|
ต้องคิดขวนขวายหารักษากาย
|
ได้พึ่งบ้างอย่างนี้เป็นที่ยิ่ง
|
สัจจังจริงจงรักสมัครหมาย
|
ไม่ลืมคุณพูนสวัสดิ์ถึงพลัดพราย
|
มิได้วายเวลาคิดอาลัย ๚
|
ได้ครวญคร่ำร่ำเรื่องเป็นเครื่องสูง
|
พอพยุงยกย่องให้ผ่องใส
|
ทั้งสาวแก่แม่ลูกอ่อนลาวมอญไทย
|
เด็กผู้ใหญ่อย่าเฉลียวว่าเกี้ยวพาน
|
พระภู่แต่งแกล้งกล่าวสาวสาวเอ๋ย
|
อย่าถือเลยเคยเจนเหมือนเหลนหลาน
|
นักเลงกลอนนอนฝันเป็นสันดาน
|
เคยเขียนอ่านอดใจมิใคร่ฟัง
|
จะฝากดีฝีปากจะฝากรัก
|
ด้วยจวนจักจากถิ่นถวิลหวัง
|
ไว้อาลัยให้ละห้อยจงคอยฟัง
|
จะร่ำสั่งสิ้นสุดอยุธยา ๚
|
โอ้ยามนี้ปีขาลสงสารวัด
|
เคยโสมนัสในอารามสามวัสสา
|
สิ้นกุศลผลบุญการุณา
|
จะจำลาเลยลับไปนับนาน
|
เคยเดินเล่นเย็นลมเลียบชมรอบ
|
ริมแขวงขอบเขตที่เจดีย์ฐาน
|
พระปรางค์มีสี่ทิศพิสดาร
|
โบสถ์วิหารการเปรียญล้วนเขียนทอง
|
ที่หน้าบันปั้นอย่างเมืองกวางตุ้ง
|
ดูเรืองรุ่งรูปนกผกผยอง
|
กระเบื้องเคลือบเหลือบสลับเหลี่ยมรับรอง
|
ศาลาสองหน้ารอบขอบกำแพง
|
สิงโตจีนตีนตัวน่ากลัวกลอก
|
ขยับขยอกแยกเขี้ยวเสียวแสยง
|
ที่ตึกก่อช่อฟ้าใบระกาแดง
|
ริมกำแพงตะพานขวางเคียงข้างคลอง
|
เป็นพลับพลาพาไลข้างในเสด็จ
|
เดือนสิบเอ็ดเคยประทานงานฉลอง
|
เล่นโขนหนังฟังปี่พาทย์ระนาดฆ้อง
|
ละครร้องเรื่องแขกฟังแปลกไทย
|
ประทานรางวัลนั้นไม่ขาดคนดาษดื่น
|
ทั้งวันคืนครื้นครั่นเสียงหวั่นไหว
|
จะวายเห็นเย็นเยียบเหงาเงียบใจ
|
โอ้อาลัยแลเหลียวเปลี่ยววิญญาณ์ ๚
|
โอ้ชาตินี้มีกรรมเหลือลำบาก
|
เหมือนนกพรากพลัดรังไร้ฝั่งฝา
|
โอ้กระฎีที่จะจากฝากน้ำตา
|
ไว้คอยลาเหล่านักเลงฟังเพลงยาว
|
เคยเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าเมื่อเราอยู่
|
มาหาสู่ดูแลทั้งแก่สาว
|
ยืมหนังสือลือเลื่องถามเรื่องราว
|
โอ้เป็นคราวเคราะห์แล้วจำแคล้วกัน ๚
|
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้ไข]