การเคลื่อนไหวทางสังคม
การเคลื่อนไหวทางสังคม เป็นการกระทำแบบกลุ่มประเภทหนึ่ง เป็นกลุ่มบุคคลหรือองค์กรขนาดใหญ่ที่บางครั้งก็ไม่เป็นทางการ ซึ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเมืองหรือสังคมที่เฉพาะเจาะจง กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกเขาดำเนินการ ต่อต้าน หรือยกเลิกการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
จ
[แก้ไข]- "การออกมาเคลื่อนไหวเราต้องแบกรับความเสี่ยง ตั้งแต่เรื่องการเรียน เพราะว่าออกมาทำกิจกรรม รวมถึงความเสี่ยงในทางการเมืองที่ว่าเราก็ไม่รู้ว่าเราจะถูกจับเมื่อไหร่ เราจะถูกคุกคามเมื่อไหร่ แต่ว่าในจุดนี้ถ้าเกิดเราไม่ออกมานี่ ถ้ามันไม่มีคนที่แสดงตัวออกมา เป็นอิฐก้อนแรก กำแพงก็สร้างไม่เสร็จ"
- จักรพล ผลละออ
- การต้องแจ้งการชุมนุมจะเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงออกมากเกินไปไหม หากเป็นการชุมนุมไม่กี่ชั่วโมงและไม่มีการเคลื่อนย้ายสถานที่ควรจะต้องแจ้งไหม แล้วการชุมนุมยุคใหม่แจ้งกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค แล้วมีผู้ชุมนุมนำโพสต์จากผู้จัดการชุมนุมไปโพสต์ต่อ ซึ่งตามกฎหมายถือว่าผู้เชิญชวนเป็นผู้จัดการชุมนุมด้วย จึงคิดว่า พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะมาตรา 10 วรรค 2 ขัดกับรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้การห้ามชุมนุมในระยะ 150 เมตรจากพระบรมมหาราชวังควรทำเครื่องหมายให้ชัดเจน และยังมีปัญหาเรื่องการตีความกิจกรรมกีฬาที่ถูกมองว่าเป็นการชุมนุม
- จันทจิรา เอี่ยมมยุรา
ช
[แก้ไข]- ฉันนับถือหัวใจเธอ ลูกสาวประเทศ เธอคือลูกสาวเรา ยืนอยู่นอกร่มเงาไม้ใหญ่ แกร่งต่อฟ้ากล้าขวางทุกทางไป มีหัวใจเท่ากำปั้นแต่มั่นคง กล้าที่จะบอกชี้สิ่งประสงค์ กล้าแสดงความเห็นมาตรงตรง ตัวเล็กเล็กแต่สูงส่งมหัศจรรย์ ยิ่งจับกุมก็ยิ่งแกร่งยิ่งแบ่งพวก ยิ่งผนวกความแค้นแสนหฤหรรษ์ ยิ่งจับกุมยิ่งพลาดอนาถอนันต์ ยิ่งนานวันยิ่งยิ่งลำบากยิ่งยากใจ ฉันนับถือหัวใจเธอ ลูกสาวประเทศ เมื่อเกิดเหตุ เธอยังกล้าฝ่าฟันได้ เธอคือลูกของเราโปรดเข้าใจ เรารักลูกเราแค่ไหนต้องรักเธอ
- ชมัยภร แสงกระจ่าง
- ผมไม่เคยสงสัยในยุทธศาสตร์ของขบวนการประชาธิปไตย แต่ผมสงสัยในยุทธวิธีอะ ยิ่งสู้ยิ่งเสียขบวน ยุทธศาสตร์ : ประชาธิปไตยเสรี ยุทธวิธี : สร้างศัตรูทั่วทิศ ทำลายมิตรถ้วนหน้า
- ชัยวัฒน์ ดีงาม
- เรามาพูดในฐานะคนไทยที่มีความห่วงใยในความเป็นไปของบ้านเมือง เรามากัน 3 คน มาพูดให้ท่านฟัง เราไม่ได้มา 30,000 คน เต็มสนามฟุตบอล อันไหนเป็นกิจกรรมทางการเมือง และอันไหนเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมากกว่ากัน
- ชูศักดิ์ ศิรินิล
ธ
[แก้ไข]การแสดงออกของพวกเราในวันนี้ ต้องการจะส่งสัญญาณว่าเราไม่เห็นด้วยที่ผู้บริหารของจุฬาฯ ตัดสินใจก้มหัวให้เผด็จการทหาร เพียงเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ เพื่อต้องการจะบอกกับสังคมว่าไม่ใช่ทุกคนในจุฬาฯ ที่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าวของผู้บริหารจุฬาฯ เราไม่เห็นด้วยที่ผู้บริหารของจุฬาฯ กำลังประทับตรารับรองความชอบธรรมให้กับรัฐบาลซึ่งมีที่มาอย่างไม่ถูกต้องในทุกมิติรัฐบาลที่กดขี่สิทธิและเสรีภาพของประชาชนอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลที่โดยเปรียบเทียบแล้วได้ช่วยเหลือคนที่ร่ำรวยที่สุดที่มีสัดส่วนเพียง 1% ในสังคม แต่ทอดทิ้งคนในสังคมอีก 99% ไว้ข้างหลัง จุฬาฯ ไม่อาจเป็น "เสาหลักของแผ่นดิน" ได้เลย หากจุฬาฯ ยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลที่กดขี่พลเมืองของประเทศนี้อย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
การแสดงออกในวันนี้ยังเป็นการแสดงออกว่าเราไม่พึงพอใจต่อการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อนิสิตบางกลุ่ม บางคน เห็นได้จากแทนที่มหาวิทยาลัยจะช่วยปกป้องสิทธิและเสรีภาพของนิสิตในรั้วมหาวิทยาลัย กลับส่งเสริมให้ตำรวจ ทหาร และผู้มีอำนาจ ใช้อำนาจของตนที่มีกดขี่สิทธิและเสรีภาพของนิสิตจุฬาฯ ถึงในรั้วมหาวิทยาลัยและเรายังต้องการแสดงออกว่าเราไม่พึงพอใจที่ผู้บริหารของจุฬาฯ ใช้คะแนนกิจกรรม หอพัก เอาความด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจของนิสิตหอพัก มาเป็นเครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมให้เผด็จการในครั้งนี้อีกด้วย "ชาวจุฬาฯ รักเผด็จการ" จึงเป็นข้อความที่ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม และเราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในใจผู้บริหารของจุฬาฯ บางท่านอยู่แล้ว เป็นการแสดงออกถึงท่าทีและจุดยืนขององค์กรให้ชัดเจน ไม่ต้องเหนียมอายทำมาเป็นจัดงานปาฐกถาที่เนื้อหาของประยุทธ์กลวงจนแทบจะจับหาสาระไม่ได้เช่นนี้ แล้วนำมาเชิดชูว่าเป็นปาฐกถาที่สุดยอด รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายสนับสนุนนวัตกรรม ซึ่งตรงกับเป้าหมายของจุฬาฯ แต่เนื้อแท้ คือ การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องในการใช้องค์กรมาเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของพวกคุณ การบอกไปตรงๆ เลยว่าชาวจุฬาฯ รักเผด็จการ จึงเป็นคำที่ทั้งตรงและสื่อสารการกระทำของผู้บริหารของจุฬาฯ ในวันนี้ได้เป็นอย่างดี ท้ายที่สุดนี้ เรายังคงหวังลึกๆ อยู่ในใจว่าผู้บริหารของจุฬาฯ จะยอมทบทวนบทบาทการเป็น "เสาหลักของแผ่นดิน" ของสถาบันนี้ และนำพามหาวิทยาลัยให้กลับมาเป็นแหล่งส่งเสริมเสรีภาพทางความคิดและวิชาการ เป็นสถาบันทางการศึกษา มิใช่สถานที่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ หรือการทำธุรกิจค้าหากำไรใดๆ ทั้งสิ้น |
||
— ธนวัฒน์ วงศ์ไชย |
ท
[แก้ไข]- "รณรงค์เรื่องประชามติถูกจับว่าแย่แล้ว แต่มาทำข่าวเรื่องรณรงค์ประชามติแล้วถูกจับจะเรียกว่าอะไร"
พ
[แก้ไข]- การที่ม็อบคุณเต็มไปด้วยดารา คนการศึกษาสูง หรืออธิการมหาลัย มันไม่ได้ทำให้พวกคุณสูงส่งกว่าม็อบชาวนาวินมอไซค์ คนรากหญ้าที่นั่งรถเมล์แม้แต่น้อย
- พชร ธรรมมล
ม
[แก้ไข]- จำเลยกับพวกอีก 6 คน ได้ร่วมกันใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงเป็นเวที ด้านข้างของตัวรถยนต์ได้ติดป้ายโจมตีพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี แล้วจำเลยกับพวกได้ร่วมกันปราศรัยโจมตีการทำงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยผลัดเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวปราศรัย และร่วมกันปลุกระดมมวลชนให้เกิดการชุมนุมขับไล่รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภายในสิ้นเดือน พ.ย. 2561 พร้อมกับการชูนิ้วสามนิ้ว (นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง) บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และถนนราชดำเนิน อันเป็นสัญลักษณ์ในทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่ในขณะนั้น อันมิใช่การกระทำในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร และเพื่อให้ประชาชนที่พบเห็นเข้าใจว่ารัฐบาลและทหารจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งก่อให้เกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบกับรัฐบาล และเป็นการยุยงปลุกปั่น สร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนที่เห็นต่างกับรัฐบาล ซึ่งเป็นการร่วมกันมั่วสุมชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใด ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือผู้ได้รับมอบหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
- มนตรี นามขาน
ร
[แก้ไข]- ผู้ไม่เคลื่อนไหว ไม่มีทางตระหนักถึงโซ่ตรวนที่พันธนาการ
- โรซา ลักเซมเบิร์ก
ว
[แก้ไข]- มีการส่งหนังสือคำสั่งมา 3 ครั้ง และยังมีการเรียกตัวโดยที่ไม่มีคำสั่งประมาณ 5 ครั้ง มีการขอให้ออกนอกพื้นที่ เราก็ไม่ออกนอกพื้นที่ เพียงบอกว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ไม่มีปัญหาอะไร สำหรับคำสั่งครั้งล่าสุดที่เรียกตัวเข้าไปพบ คงจะไม่ไป เพราะถ้าไปในพื้นที่การควบคุมของทหาร เราไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีความปลอดภัยแค่ไหน
- วรวุฒิ เทือกชัยภูมิ
- มันคงตลกน่าดู ถ้าติดคุก แล้วคนที่อยู่ในคุกถามว่ามึงไปทำอะไรมา แล้วพวกผมตอบว่า กูชูป้ายผ้าว่ะ
- วสันต์ เสตสิทธิ์
- "ถามว่ามีการยื้อแย่งไหม ไม่ยื้อแย่งเลย ผมแค่ถามว่านี่คืออะไร นี่คืออะไรโชว์ให้ผมดู พอเด็กไม่โชว์ให้ผมดู เด็กก็เดินหันหลังน่ะ หันหลัง จะเดินหนี ผมเลยหยิบปึกนั้น โปสเตอร์อะไรไม่รู้ปึกใหญ่ปึกหนึ่ง หยิบแล้วเขาก็ปล่อย ถามว่าดึงจากมือได้ไหม จะเรียกว่าดึงจากมือก็ไม่เชิง เพราะว่าไม่ต้องออกแรงอะไรเลย เขาก็ปล่อยออกมา คำถามคือมีการยื้อแย่งไหม ใช้เวลาขนาดไหน ผมว่าใช้เวลาน้อยมาก แล้วผมก็ไม่ต้องการเสียเวลาตรงนั้น ผมแค่ดูความเรียบร้อยของเส้นทาง แล้วผมจะต้องให้นายกฯ ลงมาถึง และขึ้นรถกลับไปเร็วที่สุด อันนี้อันที่หนึ่ง ผมให้ข้อเท็จจริงนะครับ เชื่อผมไม่เชื่อผมประเมินเอา"
- วีระศักดิ์ เครือเทพ
ส
[แก้ไข]- การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร จึงเป็นอะไรที่หลายฝ่ายต่างจับตามอง เพราะเคลื่อนไหวได้เพียงกลุ่มเดียวในขณะที่พรรคการเมืองไม่สามารถขยับตัวได้ จึงมองว่ามีความได้เปรียบเสียเปรียบกันเกิดขึ้นในสนามการเมือง จะมาอ้างว่าไม่ใช่พรรคการเมืองไม่ได้ เพราะพฤติกรรมของกลุ่มสามมิตรเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองชัดเจน ดังนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินการ เพราะขัดกฏหมายการชุมนุมเกิน 5 คน ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คงต้องมาพิจารณาว่าผิดกฏหมายหรือผิดคำสั่งของคสช.หรือไม่
- สรอรรถ กลิ่นประทุม
- ฝ่ายขวาคือลูกศิษย์ที่ดีที่สุดของฝ่ายซ้าย เรียนรู้จากฝ่ายซ้ายมาโดยตลอด ทั้งเรื่องการเคลื่อนไหว เรื่องสโลแกน มีธง มีสี เรื่องการระดมคนอย่างไร จะสร้างอุดมการณ์อย่างไร จะสร้างพรรคอย่างไร เขาเป็นลูกศิษย์ที่ดีที่สุดของฝ่ายซ้าย เพียงแต่ว่าครูเขาได้ละทิ้งสิ่งเหล่านี้หมดแล้ว
- สรวิศ ชัยนาม
- การประท้วงในเกาหลีใต้ในครั้งนี้เป็น "การชุมนุมบ้าๆ" ที่มีแต่ประชาชนที่ตะโกนอย่าง "เสียสติ" และบอกให้ส่งตัวพวกเขากลับกัมพูชาเพื่อไม่ให้ทำอะไร "บ้าๆ" ที่ประเทศเกาหลีใต้ เขาอ้างอีกว่าศาลสั่งยุบพรรคสงเคราะห์ชาติเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และการเลือกตั้งทั่วไปก็มีขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว แต่ทำไมฝ่ายค้านถึงเพิ่งชุมนุมเมื่อวันเสาร์
- สก ไอสาน
อ
[แก้ไข]- "สมัยเรียนที่โรงเรียนปริยัติธรรม ก็มีแต่กิจกรรมสังคมสงเคราะห์ เช่น แจกของช่วยชาวบ้าน แจกผ้าห่มให้กับคนในพื้นที่รอบๆ วัด ซึ่งไม่ได้แก้จุดที่เป็นปัญหาจริงๆ พอได้ทำกิจกรรมมากขึ้นแล้วได้เห็นว่า มีปัญหาในสังคมอยู่เต็มไปหมด ปัญหาอาจไม่เกิดขึ้นกับเราตอนนี้โดยตรง แต่อาจเกิดขึ้นกับเราในอนาคตโดยอ้อมก็ได้ เราก็เลยอยากทำงานเพื่อสังคมให้มากขึ้น สิ่งที่ได้ก็ได้กับเราและแบ่งให้คนอื่นด้วย"
- อนันต์ โลเกตุ